ทำไมคนรู้จัก"เพาะกาย" น้อยกว่ารู้จัก"ฟิตเนส" |
ผมในฐานะ
Webmaster ของเวบเพาะกาย มักจะยืนยันกับเพื่อนสมาชิกเสมอๆว่า กีฬาเพาะกาย
ไม่ได้ด้อยไปกว่ากีฬาฟิตเนสเลย / แต่เพื่อนสมาชิกบางท่าน มักจะสงสัยในใจว่า
ถ้ากีฬาเพาะกายมันดีเท่ากับกีฬาฟิตเนสจริง ทำไม "ในยุคนี้"
เราถึงได้ยินแต่คำว่า ฟิตเนส ฟิตเนส และฟิตนส มากกว่าคำว่า เพาะกาย /
และยังคิดอีกว่า ในเมื่อเราไม่ค่อยได้ยิน
หรือรู้อะไรเกี่ยวกับการเพาะกายเลย อย่างนี้
จะเรียกว่าการเพาะกายมีประโยชน์เท่ากับการฟิตเนสหรือ?
อาจเป็นเพราะการเพาะกายมันไม่มีประโยชน์ ก็เลยเสื่อมความนิยม
และค่อยๆสูญหายไปละมั้ง? / ดังนั้น ในบทความหน้านี้
ผมจึงจะมาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ฟังครับ กีฬาเพาะกาย (Bodybuilding) และกีฬาฟิตเนส (Fitness) ต่างก็อยู่บนพื้นฐานของการบริหารร่างกายด้วยลูกน้ำหนัก (Weight trainning) เหมือนกัน กีฬาเพาะกาย เกิดมาก่อน โดยมีอายุการเกิดของกีฬานี้มาเป็นร้อยปีแล้ว ในขณะที่กีฬาฟิตเนส เกิดมาทีหลัง แต่กลับได้รับความนิยมกว่า ซึ่งการที่กีฬาฟิตเนสได้รับความนิยมกว่านั้น มันมีสาเหตุมาจากอะไร? คำพูดที่ว่า "กีฬาฟิตเนส ได้รับความนิยมมากกว่า กีฬาเพาะกาย" นั้น ไอ้เจ้าคำว่า ได้รับความนิยม นั้น วัดกันตรงไหน |
![]() |
men.sanook.com (ภาพบน) สถานฟิตเนส จะเป็นพันธมิตรกับเวบดังๆต่างๆ เพื่อโปรโมทตัวเอง และมีการลดแลกแจกแถม |
![]() |
eventkhonkaen.com (ภาพบน) สถานฟิตเนส มีอีเว้นท์ให้เห็นตามห้างดังๆ |
![]() |
th-th.facebook.com (ภาพบน) มีภาพโฆษณาสวยๆ น่าประทับใจ |
ความนิยมนั้น
วัดกันตรงที่ว่า ในชีวิตประจำวันของเรานนั้น
เราสามารถเห็นอะไรๆที่เกี่ยวกับฟิตเนส ได้ "ชินตา"
มากกว่าอะไรๆที่เกี่ยวกับการเพาะกาย เป็นต้นว่า การจัดโปรโมชั่น ลดแลกแจกแถมเกี่ยวกับคอร์สฟิตเนสบ้าง ,การจัดอีเว้นท์เกี่ยวกับฟิตเนสบ้าง และภาพโฆษณาสวยๆ ของสถานฟิตเนส ที่ปรากฏตามสื่อโฆษณาต่างๆเช่น ตามป้ายรถเมลล์ และตามห้างดังๆ / ในขณะที่เราไม่เห็นสิ่งพวกนี้ (หมายถึงการโปรโมทแบบนี้) เกิดขึ้นกับกีฬาเพาะกายเลย แต่เพื่อนสมาชิก แน่ใจหรือว่า อะไรที่ได้รับความนิยม เพียงเพราะว่ามาจากการโปรโมทบ้าง การทุ่มทุนโฆษณาบ้าง (เช่น สถานฟิตเนส) จะต้องดีเสมอไป? และอะไรที่ไม่ได้โฆษณาเลย (เช่นสถานเพาะกาย) จะต้องรอวันหายสาบสูญไปจากวงการ? |
![]() |
facebook.com/RabbitCard (ภาพบน) เบอร์เกอร์คิง ชิ้นละ 320 บาทข้างบนนี้ คุณคิดว่า ต้นทุนมันเท่าไรกัน? |
เปรียบเสมือนแฮมเบอร์เกอร์ ของบริษัทต่างชาติในรูปข้างบนนี้
เมื่อผู้บริโภคซื้อมากิน เขาต้องจ่ายเงินถึงชิ้นละ 250 บาท
ซึ่งความจริงแล้ว หากหาซื้อขนมปัง 1 อัน ,เนื้อบด 1 แผ่น ,สัปปะรดชิ้นเล็ก
,แฮม ,มะเขือเทศอีกอย่างละ 2 ชิ้น มายองเนสซื้อที่เซเว่น
แล้วเอามาทำกินเองที่บ้าน
ผู้บริโภคคนนี้จะประหยัดเงินได้มากกว่านี้ถึง 70% ทำไมแฮมเบอร์เกอร์อันข้างบนนี้ ซึ่งมีราคาต้นทุนของตัวสินค้าเองไม่ถึง 100 บาท จะต้องขายแพงถึง 250 บาท? คำตอบก็คือ ส่วนที่เหลือ ที่หักต้นทุนตัวสินค้าออกแล้ว ก็คือค่าโปรโมทสินค้า อันได้แก่ การเป็นพันธมิตรกับเวบดังๆบ้าง ,การจัดอีเว้นท์บ้าง ,การมีภาพโฆษณาสวยๆของแฮมเบอร์เกอร์ของบริษัทนี้ (เหมือนกับที่สถานฟิตเนส ก็ต้องจ่ายงบโปรโมทแบบนี้เช่นกัน) ในขณะที่ การทำแฮมเบอร์เกอร์แบบนี้ กินเองที่บ้าน เราทำได้ถูก เพราะไม่ต้องเสียเงินเกี่ยวกับการโปรโมทตัวแฮมเบอร์เกอร์ ประเด็นอยู่ที่ว่า แฮมเบอร์เกอร์ ของบริษัทต่างชาติ ราคา 250 บาทอันนี้ มัน มีประโยชน์ทางสารอาหาร เท่ากัน กับแฮมเบอร์เกอร์ ที่เราทำกินเองที่บ้านในราคา 70 บาทเลย ก็เหมือนกับกีฬาฟิตเนส และกีฬาเพาะกายนั่นแหละครับ ความจริงแล้ว มัน มีประโยชน์ทางการออกกำลังกาย เท่ากัน เพียงแต่ว่า การเพาะกาย มันไม่ได้ทำการโปรโมทตัวเองเหมือนกีฬาฟิตเนสเท่านั้นเอง นั่นก็หมายความว่า เพื่อนสมาชิก อย่าเอา "ความชินตา" ที่เห็นโฆษณากีฬาฟิตเนส ที่พบเห็นได้บ่อยกว่ากีฬาเพาะกายนั้น เอามาเป็นตัววัดว่า กีฬาฟิตเนส ดีกว่ากีฬาเพาะกายนะครับ / ขอให้พิจารณาด้วยหลักความเป็นจริง เหมือนกับตัวอย่างแฮมเบอร์เกอร์ของบริษัทต่างชาติที่ผมยกมาให้ดูนี้นั่นเองครับ |
![]() |
wanderfoolme.wordpress.com (ภาพบน) สถานฟิตเนส ต้องลงทุนมหาศาลเพื่อสร้างอาคาร และลงอุปกรณ์จำนวนมากไว้ |
![]() |
acefitness.org บัณฑิตปริญญาตรี วิทยาศาสตร์การกีฬา ที่รอเข้าทำงานเป็นเทรนเนอร์ตามห้างฟิตเนสอีกหลายคน |
![]() |
facebook.com/thailandmusashi ธุรกิจอาหารเสริม ที่แฝงตัวอยู่ตามสถานฟิตเนสต่างๆ |
![]() |
ธุรกิจที่พูดถึงก่อนหน้านี้ทั้งหมด "จะเจ๊ง" ทั้งหมด
หากคน รู้ความจริง ว่า เราสามารถซ์้อเตียงยกน้ำหนักตัวเดียว และบาร์เบลล์ และดัมเบลล์ มาเล่นเพาะกายที่บ้านได้ โดยไม่ต้องพึ่งเทรนเนอร์ และยังได้ประโยชน์จากการเล่นที่บ้าน เท่ากันกับที่เล่นที่ฟิตเนสอีกด้วย |
พวกที่มีส่วนได้ส่วนเสียกับกีฬาฟิตเนส ต่างก็พร้อมใจกัน "คุมกำเนิด"
การเพาะกายให้ได้มากที่สุด เหตุผลก็เพราะว่า กีฬาเพาะกายนั้น
ใช้ต้นทุนน้อยมาก และยังเล่นที่บ้านได้ โดยไม่ต้องไปรอแย่งอุปกรณ์กับคนอื่น
ที่ดันเลิกงานเวลา 17.00 น.พร้อมกัน และมีเวลาว่างเสาร์อาทิตย์พร้อมกัน
(เหมือนกับปัญหาที่หลายคน เจอที่ศูนย์ฟิตเนส) หากประชาชนรู้ความจริงในข้อนี้ ก็จะเหมือนกับที่รู้ความจริงว่า เราสามารถใช้ทุน 70 บาททำแฮมเบอร์เกอร์กินเองที่บ้านได้ โดยไม่ต้องเสียเงิน 250 บาทเพื่อซื้อแฮมเบอร์เกอร์จากต่างชาติ / ซึ่งถ้าประชาชนเกิดตาสว่างขึ้นมา และทำแฮมเบอร์กินเองที่บ้านกันหมด ธุรกิจแฮมเบอร์เกอร์ของชาวต่างชาติ ก็จะเจ๊งบ๊ง ขายคนไทยไม่ได้อีก / ฉันท์ใดก็ฉันท์นั้น ธุรกิจฟิตเนสก็เช่นกัน ที่มันน่ากลัวก็เพราะว่า ธุรกิจฟิตเนสนั้น เขาต้องลงทุนมหาศาลไปกับตึก ไปกับอาคาร ไหนจะต้องลงอุปกรณ์ตัวละเป็นแสนๆบาท เป็นร้อยๆตัว ซึ่ง ถ้าประชาชน เกิดรู้ความจริงว่า เขาสามารถเล่นเพาะกายที่บ้านได้ ด้วยต้นทุนค่าอุปกรณ์ที่ต่ำมาก เขาก็จะเล่นที่บ้านกันหมด ไม่มาเล่นที่ฟิตเนสกัน เมื่อไม่มีใครยอมเสียเงินมาใช้บริการที่ฟิตเนส ทางสถานฟิตเนสก็ไม่มีเงินจ่ายค่าอุปกรณ์ที่ซื้อมา ,ไม่มีเงินจ่ายค่าเช่าตึกที่เช่ามา สถานฟิตเนสก็จะต้องพากันปิดตัวลง เมื่อสถานฟิตเนสปิดตัวลง บัณฑิตปริญญาตรีที่จบสาขาวิทยาศาสตร์การกีฬา ที่หวังจะประกอบอาชีพรับเจ้างเป็นเทรนเนอร์ส่วนตัว ก็ต้องตกงาน เมื่อสถานฟิตเนสปิดตัวลง ธุรกิจการขายอาหารเสริม ที่ต้องอาศัยพื้นที่ของสถานฟิตเนสในการขาย ก็จะไม่มีที่ให้ตั้งขายอีกต่อไป (เพราะสถานฟิตเนสปิดไปแล้ว) ก็จะทำให้ธุรกิจขายอาหารเสริม เจ๊งไปด้วย ทางเดียวที่จะทำให้อยู่รอด ก็คือ สถานบริการฟิตเนสก็ดี ,ผู้จบปริญญาตรี วิทยาศาสตร์การกีฬาก็ดี ,ธุรกิจอาหารเสริมก็ดี จะต้องพร้อมใจกันโจมตีกีฬาเพาะกายให้เละ อย่างไม่มีชิ้นดี เพื่อไม่ให้คนไปเล่นเพาะกายอย่างเด็ดขาด คำว่าโจมตีนั้น ก็เช่น การพยายามยัดเยียดความคิดที่ว่า กีฬาฟิตเนส ดีต่อหัวใจและหลอดเลือด ดังนั้น ต้องเลือกเล่นฟิตเนสเท่านั้น อย่าเล่นเพาะกายเด็ดขาด (แล้วก็คิดในใจว่า ถ้าเอ็งเลือกฟิตเนสแล้ว เอ็งก็ต้องเสียเงินมาเล่นที่สถานฟิตเนสของข้า เพราะเอ็งเล่นฟิตเนสที่บ้านไม่ได้ หุ... หุ...) เพื่อนสมาชิก พอมองเห็นสถานะการณ์แล้วใช่ไหมครับว่า กีฬาเพาะกายนั้น นอกจากจะไม่มีการโปรโมทตัวเองให้ดูดีแล้ว ยังถูกโจมตีจนเละเป็นโจ๊ก โดยพวกสถานฟิตเนสต่างๆ เลยทำให้กีฬาเพาะกายดูติดลบมากขึ้นไปอีก แต่มันก็เป็นสิ่งที่พิสูจน์ให้เห็นได้อย่างหนึ่งว่า แม้ว่ากีฬาเพาะกายจะไม่มีการโปรโมท และถูกโจมตีโดยกีฬาฟิตเนสมาโดยตลอด แต่กีฬาเพาะกายก็อยู่มาได้เป็นร้อยปี เพราะอะไร? คำตอบก็คือ เพราะมันเล่นแล้วได้ผลจริงๆไงครับ แถมยังใช้ต้นทุนถูกกว่ากันหลายร้อยเท่าตัวอีกด้วย คือแทนที่จะเสียเงินซื้อคอร์สฟิตเนส ก็สู้เอาเงินนั้น มาซื้ออุปกรณ์เพาะกายเล่นที่บ้านดีกว่า เล่นเวลาไหนก็ได้ สบายๆ ส่วนเรื่องเทรนเนอร์นั้น ก็ไม่จำเป็นเลยครับ นักเพาะกายระดับแชมป์หลายคน สร้างกล้ามเนื้อมาโดยลำพังกันทั้งนั้นครับ ถ้าคุณรู้หลักแล้ว ไม่ยากเลย (และหลักที่ว่านั้น ก็มีในเวบของผมทั้งหมดอยู่แล้วครับ) สรุป การที่คนรู้จักกีฬาเพาะกาย น้อยกว่ารู้จักกีฬาฟิตเนส นั้น ไม่ได้หมายความว่ากีฬาเพาะกายให้ประโยชน์น้อยกว่ากีฬาฟิตเนสครับ แต่เป็นเพราะกีฬาฟิตเนส เขาทุ่มงบโปรโมทตัวเองให้เด่นกว่ากีฬาเพาะกายนั่นเอง / ดังนั้น ถ้าเพื่อนสมาชิก เปิดใจกว้าง ตัดเรื่องความชินตา (อันเกิดจากการรับรู้ทางสื่อ ที่เขาตั้งใจโปรโมทกันนั้น) ออกไป แล้วมองแต่ประโยชน์ที่ได้รับเท่านั้น เพื่อนสมาชิกก็จะเห็นได้ชัดเจนเลยว่า กีฬาเพาะกายประหยัดต้นทุนได้มากกว่า และให้ประโยชน์เท่ากับกีฬาฟิตเนสครับ |
- END - |