ของหายเพราะใช้บริการของ ebay global shipping program ของ "อีเบย์" |
เมื่อคุณผู้อ่าน ได้อ่านชื่อเรื่องข้างบนนี้แล้ว
คุณผู้อ่านอาจคิดในใจว่า "ก็ในเมื่อรู้อยู่แล้วว่า ถ้าใช้บริการของ ebay
global shipping program ของจะต้องหาย ก็แล้วทำไมจะต้องให้ของหายด้วยล่ะ!
ก็แค่ไม่ใช้บริการของ ebay global shipping program ก็จบแล้ว (
คือของไม่หาย )" คำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือว่า "ผู้ขาย" เขากำหนดมาเลยว่า เขาจะส่งให้เราด้วย ebay global shipping program / คือผู้ขายเขาไม่ได้ให้ตัวเลือกกับคนซื้ออย่างเราว่าต้องการให้ส่งแบบอื่นหรือเปล่า? นั่นก็หมายความว่า หากเราในฐานะคนซื้อ ไม่ต้องการให้คนขายส่งแบบ ebay global shipping program ก็คือการที่เรา "ไม่ต้องซื้อ" นั่นเอง คือ ถ้าคนซื้อ "ไม่ง้อ" คนขาย หมายความว่า ในเมื่อฉัน ( หมายถึงคนซื้อ ) ไม่ต้องการให้แก ( หมายถึงคนขาย ) ส่งแบบ ebay global shipping program เพราะของมันหายบ่อย แต่แก ( หมายถึงคนขาย ) ก็ยังยืนยันที่จะส่งแบบ ebay global shipping program ดังนั้นฉัน ( หมายถึงคนซื้อ ) ก็จะไม่ซื้อของกับแก แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราในฐานะคนซื้อ "ต้องง้อ" คนขาย เพราะเหตุว่าสินค้านั้นหาซื้อยาก และมีชิ้นเดียว หรือไม่ก็ เราขี้เกียจ Search หาจากที่อื่นแล้ว เราก็เลยจำเป็นต้องรับเงื่อนไขจากคนขาย ( หมายถึงรับเงื่อนไขจากคนขาย ว่ายอมให้คนขายส่งแบบ ebay global shipping program ) คราวนี้ เมื่อเรารับเงื่อนไขเรื่องการส่งแบบ ebay global shipping program นั่นก็แปลว่าของต้องหายแน่นอน แล้วจะทำยังไง? นี่แหละครับ คือสาเหตุที่ทีมงานต้องเขียนเวบหน้านี้ขึ้นมา เพื่อให้คำตอบกับคุณในเรื่องนี้ คือให้คำตอบว่า จะตามของที่หายได้อย่างไร ( คือหมายความว่า ต้นเหตุของการที่ของหาย จริงๆแล้วก็คือการส่งแบบ ebay global shipping program / แต่ในเมื่อเราแก้ที่ต้นเหตุไม่ได้ ( เนื่องจากคนขายยืนยันที่จะส่งแบบ ebay global shipping program ) เราก็ต้องมาแก้ที่ปลายเหตุเอา นั่นคือมาแก้ปัญหาที่ว่า เมื่อของหายแล้ว เราจะไปตามของ ของเราได้อย่างไร? ) เนื้อหาในเวบ จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนดังนี้ครับ ส่วนที่ 1 ( คือหน้าเวบหน้าแรกที่คุณกำลังอ่านอยู่นี้ ) - อธิบายว่าทำไมคนขายถึงเลือกใช้การส่งแบบ ebay global shipping program กับเรา? ส่วนที่ 2 ( อยู่ในหน้าเวบหน้าที่ 2 ซึ่งก็คือหน้าถัดไป ) - จะพูดถึงวิธีตามของเมื่อของหาย และอธิบายว่าทำไม การส่งแบบ ebay global shipping program ถึงทำให้ของหาย? ส่วนที่ 1 - ทำไมคนขายถึงเลือกใช้การส่งแบบ ebay global shipping program กับเรา |
![]() ![]() |
http://www.ebay.com/itm/141697001478 |
(
ภาพบน ) สินค้าในภาพข้างบนนี้
ต้องใช้การประมูลเอา / ทำไมเราถึงรู้ว่าต้องใช้การประมูล? คำตอบก็คือว่า
เพราะมันมีปุ่ม place bid อยู่ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้นั่นเอง
แต่ปัญหาคือ คุณผู้อ่านจะลงประมูล ( bid ) สุ่มสี่สุ่มห้าไม่ได้นะครับ คุณต้องดูให้ดีๆก่อน / แล้วที่ว่า "ดูให้ดีๆก่อน" นั้น คือดูตรงไหน? |
![]() ![]() |
(
ภาพบน ) ที่ทีมงานบอกว่าให้ดูให้ดีๆก่อนที่จะลงประมูลนั้น
ก็คือว่า ผู้ขายคนนี้เขาอาจจะไม่ยอมส่งสินค้ามาไทยก็ได้นะครับ /
ทำไมเราถึงรู้ว่าคนขายอาจจะไม่ยอมส่งสินค้ามาไทย? คำตอบก็คือว่า
เพราะเขาเขียนไว้ว่า May not ship to Thailand ตรงที่
ลูกศรสีแดง
ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ นั่นเอง นั่นก็หมายความว่า หาก "ในใจ" คนขาย เขาไม่ต้องการส่งไทยตั้งแต่แรกแล้ว แล้วเรา ( ซึ่งเป็นคนไทย ) ดันไปลงประมูล ( bid ) แล้วดันไปชนะประมูลเสียอีก มันก็จะเกิดผลกระทบเป็นลูกโซ่ดังนี้คือ เหตุการณ์ที่ 1 - เราผู้ชนะ ซึ่งเป็นคนไทย แต่คนขายไม่ส่งของให้เรา เพราะเขาบอกไว้ตั้งแต่ก่อนลงประมูลแล้วว่า May not ship to Thailand ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ ) |
![]() |
เหตุการณ์ที่ 2 (
ซึ่งกระทบมาจากเหตุการณ์ที่ 1 ) - คนที่ได้อันดับที่ 2 (
คือแพ้ประมูลคนไทย )
เป็นฝรั่งที่อยู่ในประเทศอเมริกา ซึ่งคนขายยินดีที่จะส่งของให้ (
เพราะคนที่ได้อันดับ 2 อยู่ในประเทศอเมริกา ) /
แต่แม้ว่าคนขายจะยินดีที่จะส่งของให้ แต่คนที่ได้อันดับ 2 นี้ ก็ดัน
"แพ้ประมูล" ให้กับคนไทย เหตุการณ์ที่ 3 ( ซึ่งกระทบมาจากเหตุการณ์ที่ 2 ) - คนที่ได้อันดับที่ 2 ( คือฝรั่งที่แพ้ประมูลคนไทย ) ก็เลยหันไปซื้อสินค้าจากพ่อค้าคนอื่น เหตุการณ์ที่ 4 ( ซึ่งกระทบมาจากเหตุการณ์ที่ 1 ) - คนขาย เอาของขึ้นประมูลใหม่ / เพราะว่าในรายการประมูลเดิมนั้น คนชนะเป็นคนไทย ซึ่งคนขายก็บอกก่อนล่วงหน้าแล้วว่าจะไม่ส่งไทย ดังนั้น การประมูลของเดิมนั้น ก็เลยเป็น โมฆะ / พอเป็นโมฆะ คนขายก็เลยเอาของชิ้นดังกล่าว มาขึ้นประมูลใหม่ เหตุการณ์ที่ 5 ( ซึ่งกระทบมาจากเหตุการณ์ที่ 4 ) - ปรากฏว่า เมื่อคนขายเอาของขึ้นประมูลใหม่ กลับไม่มีคนมาลงประมูลเลย / เหตุผลที่ไม่มีคนมาลงประมูลก็เพราะว่า คนที่ต้องการสินค้านี้จริงๆ และมีคุณสมบัติครบ ( คืออยู่ในประเทศอเมริกา ) ก็คือ คนที่ได้อันดับ 2 ในการประมูลครั้งแรกนั้น "ดันไปซื้อสินค้าแบบเดียวกันกับพ่อค้าคนอื่นไปแล้ว" สรุปตรงนี้ก่อนว่า ด้วยการลงประมูลแบบไม่ดูตาม้าตาเรือของคนไทย ทั้งๆที่คนขายบอกไว้แต่แรกแล้วว่าอาจจะไม่ส่งสินค้ามาไทย แล้วคนไทยคนนี้ ดันไปชนะประมูลเสียอีก ผลที่ตามมาก็คือ คนขาย เสียโอกาส ที่จะขายสินค้าให้กับฝรั่ง ที่อยู่ที่อเมริกา ( ที่อยู่ในอันดับ 2 ของการประมูล ) ไป คือถ้าคนไทยดูตาม้าตาเรือให้ดี แล้วเห็นว่ารายการประมูลนี้ มีคำว่า May not ship to Thailand อยู่ ก็เลยไม่ลงประมูล / พอคนไทยไม่ลงประมูล ก็จะทำให้ฝรั่งคนที่อยู่อเมริกา ( ที่ว่าอยู่ในอันดับ 2 ในตัวอย่างแรก ) เป็นผู้ให้วงเงินสูงสุด แล้วฝรั่งคนนี้ก็ชนะการประมูลไป / และเมื่อฝรั่งคนนี้ชนะการประมูล ทางคนขายก็สามารถส่งสินค้าให้ฝรั่งคนนี้ได้ เพราะฝรั่งคนนี้ พักอาศัยอยู่ในอเมริกานั่นเอง ถามต่อว่า แล้วคนขายคนนี้ ซึ่งสุดยั๊วะ ที่คนไทยดันลงประมูล ( เลยทำให้คนขาย เสียโอกาส ที่จะขายสินค้าให้กับฝรั่งที่อยู่ที่อเมริกา ) จะ "แก้แค้น" กับคนไทย ( ที่ดันลงประมูล ) คนนี้ได้อย่างไร? คำตอบก็คือ คนขายสามารถให้คะแนน Feedback แบบติดลบ กับคนไทย ( ที่ดันลงประมูล ) คนนี้ได้ คุณผู้อ่านอย่าพึ่งขำ หรืออย่าพึ่งชะล่าใจไปว่า ไอ้เจ้าคะแนน Feedback แบบติดลบนี้ จะทำอะไรกับคนไทยอย่างเราได้ เพราะจริงๆแล้ว เมื่อคุณมีคะแนน Feedback แบบติดลบ ไม่ว่าจะติดลบเล็กน้อยขนาดไหนก็ตาม ก็จะทำให้คุณไม่สามารถซื้อสินค้าบางรายการจากอีเบย์ได้อีกเลย ซึ่งคุณผู้อ่าน สามารถดูรายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้ที่ลิงค์ http://www.tuvagroup.com/3Hpatic-001001R-580620-1120.html |
![]() ![]() |
(
ภาพบน ) เอาล่ะ!
สมมติว่าคุณผู้อ่านเข้าใจตามที่ทีมงาน Tuvagroup.com
อธิบายในเนื้อหาข้างบนทั้งหมด จนจำได้ขึ้นใจแล้วล่ะว่า ต้องดูตาม้าตาเรือให้ดีเสียก่อน
ก่อนที่จะลงประมูล
อย่าไปลงประมูลมั่วๆโดยที่คนขายเขาไม่เต็มใจที่จะส่งประเทศไทย "แต่ สมมติว่า" คุณผู้อ่าน ก็ยังอยากลงประมูลในสินค้าในรายการข้างบนนี้อยู่ดี จะต้องทำอย่างไรต่อ? คำตอบก็คือ ก็ต้องให้ทีมงาน Tuvagroup.com เมลล์ไปถามคนขายก่อนว่า จะขอให้คนไทยลงประมูลได้ไหม? และจะคิดค่าส่งยังไง? และคนขายก็คือ คนที่ใช้ชื่อว่า championgr6 ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้นั่นเอง ( เราจะต้องเมลล์ไปถามคนขายคนนี้แหละครับ ) |
![]() ![]() |
(
ภาพบน ) (
ข้างบนนี้เป็นเมลล์ของจริงนะครับ ไม่ใช่การสมมติ
) ทีมงาน Tuvagroup.com ซึ่งใช้ไอดีในอีเบย์ว่า tuva47 ได้เมลล์ไปถามคนขาย
( ที่ชื่อ
championgr6 )
โดยถามไปตรงๆว่าส่งประเทศไทยได้ไหม (
ก็คือการถามว่า ขอให้คนไทยลงประมูลได้ไหม? ) และ "ค่าส่งมาประเทศไทย"
คือเท่าไร? ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว
ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ ) จากนั้น 2 - 3 วัน คนขายก็ตอบเมลล์มาดังข้างล่างนี้ |
![]() ![]() |
(
ภาพบน ) (
ข้างบนนี้เป็นเมลล์ของจริงนะครับ ไม่ใช่การสมมติ
) คนขายที่ชื่อ championgr6 ได้ตอบเมลล์กลับมา
โดยมีเนื้อหา 2 ประเด็นคือ ![]() ![]() |
![]() |
(
ภาพบน ) ณ.จุด จุดนี้ เชื่อแน่ว่า
คุณผู้อ่านต้อง หงุดหงิดแบบสุดๆ! หงุดหงิดยังไง?
ก็เพราะว่า ไอ้เจ้าคนขาย มัน "ลีลา" คือบอกแต่ว่าส่งไทย
แต่ไม่ยอมบอกว่าค่าส่งคือเท่าไร! บ้าหรือเปล่าเนี่ย! คือหมายความว่า คนขายยินยอมให้เราลงประมูลได้ แล้วถ้าเราชนะประมูล เขาถึงจะให้ทางอีเบย์ คำนวณค่าส่งให้ / คือหมายความว่า ณ.วันนี้ เรา ( ในฐานะผู้จะลงประมูล ) ยังไม่รู้ค่าส่งนั่นเอง / ซึ่งทำให้เราต้องมีความลำบากในการคำนวณงบประมาณค่าใช้จ่าย ( คือยอดเงินที่จะเอาไปลงประมูล + ค่าส่ง ( ที่ยังไม่รู้ ) ) อย่างเช่นว่า เรามีงบ 100 เหรียญสำหรับค่าใช้จ่ายทั้งหมด ( ค่าใช้จ่ายทั้งหมดคือค่าสินค้าที่จะลงประมูล + ค่าส่งจากอเมริกา มาไทย ) คราวนี้ พอเราไม่ทราบค่าส่ง ( เพราะคนขายไม่บอก ) เราก็เลยไม่รู้ว่าจะต้องลงเงินค่าประมูลสินค้าเท่าไรดี ( คือหมายความว่า หากเรารู้ว่าค่าส่งคือ 18 เหรียญ เราก็จะได้ลงประมูล 82 เหรียญ / แต่ปรากฏว่าเราไม่รู้ค่าส่ง เราก็เลยไม่รู้ว่าควรจะลงประมูลเท่าไรดี ) เดี๋ยวเราค่อยคุยกันเรื่อง ebay global shipping program กันนะครับ ตอนนี้มาตอบปัญหาก่อนว่า ทำไมคนขายถึงไม่บอกค่าส่งเป็นตัวเลขไปเลยว่าเป็นกี่เหรียญ กี่ปอนด์ แต่ดันตอบกลับมาว่า ส่งของให้เราด้วย ebay global shipping program สาเหตุที่คนขายไม่บอกค่าส่งเรามาเลยว่าเป็นเงินกี่เหรียญ กี่ปอนด์นั้น เป็นดังนี้ครับ |
![]() |
night2rise.wordpress.com |
(
ภาพบน ) สมมติว่า
มีลูกค้าที่ต้องการจะประมูลสินค้านี้ มาจาก 6 ประเทศคือ อินเดีย ,โปรตุเกส
,สิงคโปร์ ,อิลาลี ,โซเวียต และญี่ปุ่น / ลูกค้าทุกคนที่ว่ามานี้
ก็เมลล์มาถามคนขายเรื่อง "ค่าส่ง" สินค้าชิ้นนี้ไปประเทศตัวเอง (
คือค่าส่งจากอเมริกา ไปที่ประเทศทั้ง 6 ประเทศที่ยกตัวอย่างมา ) ก็จะเกิดภาระกับคนขายคนนี้ เหมือนงานเอกสารวางไว้บนโต๊ะ ในรูปการ์ตูนข้างบนนี้ 6 อัน / นั่นก็คือคนขายคนนี้ จะต้องโทรติดต่อไปที่ไปรษณีย์ที่ประเทศของเขา ( คือ อเมริกา ) ว่า ถ้าจะส่งสินค้าจากประเทศของเขา ไปยังประเทศทั้ง 6 ประเทศนี้ แต่ละประเทศ ต้องเสียค่าส่งเท่าไร จากนั้น คนขายคนนี้ ก็ต้องกลับมานั่งหน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อตอบกลับทีละประเทศ ทีละประเทศ จนครบ 6 ประเทศ ว่าค่าส่งคือเท่าไรที่แต่ละประเทศถามคนขายมานั้น คือเท่าไร เอาล่ะ แค่ 6 ประเทศ ก็ยังพอไหว แต่ถ้าเป็นไปดังภาพข้างล่างนี้ล่ะ? |
![]() |
(
ภาพบน ) สมมติว่าสินค้าชิ้นนี้
มีคนสนใจมาจากหลายประเทศทั่วโลก แล้วหลายๆประเทศนั้นก็พากัน "ถามค่าส่ง"
เข้ามาพร้อมๆกันล่ะ? ภาระ อันเปรียบเสมือนงานเอกสารบนโต๊ะ ในการ์ตูนในภาพข้างบนนี้ ก็แสดงให้เห็นว่า มันเป็นสิ่งที่ "ล้นโต๊ะ" คือ มันยุ่งยากเกินไป ,เป็นภาระมากเกินไป ที่จะต้องไปตรวจสอบค่าส่งไปรษณีย์ทีละประเทศ ทีละประเทศ แล้วต้องกลับมานั่งตอบเรื่องค่าส่งทีละประเทศ ทีละประเทศอีก ดังนั้น คนขายจึงหาทางออกด้วยวิธีดังข้างล่างนี้ครับ |
![]() |
(
ภาพบน ) ก็คือ
คนขายนั้น ตอบคำถามแก่ลูกค้าที่ถามเรื่องค่่าส่งมาจากทั่วโลก โดยตอบแบบสั้นๆเลยว่า "ตูข้า
จะส่งด้วย ebay global shipping program" โดยที่คนขายไม่ต้องมาสาธยาย
หรือต้องมาจำแนกแยกแยะให้กับคนที่เมลล์มาถาม ว่า ส่งไปประเทศอิตาลี
คิดกี่เหรียญ ,ส่งไปประเทศอินเดียว คิดกี่เหรียญ ฯลฯ |
![]() |
(
ภาพบน ) เพียงเท่านี้
ภาระของคนขายคนนี้ ก็จะเหลือเพียงแค่งานเดียว
เปรียบเสมือนงานเอกสารเพียงอันเดียว
ที่วางรออยู่บนโต๊ะในการ์ตูนในภาพข้างบนนี้เท่านั้น |
![]() ![]() |
(
ภาพบน ) ที่ว่าเหลืองานเดียว
ก็คือคนขายแค่ก๊อปปี้ข้อความไว้ว่า " I do ship international. I use the
ebay global shipping program.Ebay charges you for shipping." แล้วพอมีลูกค้าจากทั่วโลกถามเรื่องค่าส่งมา เขาก็แค่เอาข้อความที่ก๊อปปี้ไว้ เอามา Paste ลงในอีเมลล์ เหมือนที่คุณผู้อ่านเห็นในเมลล์ข้างบนนี้แหละครับผม |
![]() |
(
ภาพบน ) เมื่อมาถึงจุดนี้แล้ว (
คือถามคนขายเรื่องการส่งไปแล้ว
และคนขายตอบกลับมาว่าจะส่งด้วย ebay global shipping program )
เราในฐานะผู้ซื้อหรือผู้ประมูล
ก็ต้องเลือกช่องทางเองแล้วล่ะครับว่าจะเอาแบบไหนต่อ
เหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้ สมมติว่า คุณผู้อ่านอยากได้สินค้าชิ้นนี้มาก ก็เลยยอมรับการส่งด้วย ebay global shipping program / คุณลูกค้าก็เลยลงประมูล "แล้วบังเอิญว่าคุณผู้อ่านเกิดชนะประมูลขึ้นมา" เหตุการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป? ขอเชิญท่านผู้อ่านติดตามอ่านที่หน้าถัดไปได้เลยครับ แต่ก่อนที่จะไปอ่านในหน้าถัดไป ทีมงานขออธิบายสักเล็กน้อยครับว่า ทำไมการส่งแบบ ebay global shipping program ถึงมีความน่าเชื่อถือ ทั้งๆที่คนขายไม่บอกค่าส่งเป็นตัวเลขให้ผู้ซื้อว่าค่าส่งเป็นกี่เหรียญ กี่ปอนด์ เพียงแต่บอกว่าจะส่งแบบ ebay global shipping program เท่านี้ ก็ดูน่าเชื่อถือแล้ว |
![]() |
(
ภาพบน ) ebay global shipping
program ก็คือการส่งสินค้า ที่ดำเนินการโดย ebay.com เอง
โดยที่ทางผู้ขายไม่ต้องทำอะไรเลย แค่เลือกใช้บริการของ ebay global
shipping program ส่งของให้ ก็เป็นอันเสร็จพิธี /
คือผู้ขายไม่เหนื่อยมากนั่นเอง (
คนขายไม่ต้องไปคอยโทรถามค่าส่งจากไปรษณีย์
เพื่อจะนำไปตอบให้กับลูกค้า ที่ถามเรื่องค่าส่งมา ) คราวนี้
เรามดูกันว่าเขาดำเนินการยังไง |
![]() |
(
ภาพบน ) สมมติว่า
สินค้าที่ลงประมูลนั้น ทางอีเบย์ (
หรือเรียกเต็มๆว่า ebay global shipping program )
ได้ตีค่าส่งไว้ว่าเป็น 18 เหรียญแล้วล่ะก็ ไม่ว่าการประมูล จะจบลงที่เท่าไร คือจบที่ 100 เหรียญ หรือจบที่ 30 เหรียญ แต่ค่าส่ง ก็จะยังคงเป็น 18 เหรียญตลอดไป ( สำหรับสินค้าชิ้นนี้ ) คือหมายความว่า หลังจากจบการประมูลแล้ว ทางอีเบย์ ก็จะส่งสินค้าชิ้นนี้ให้กับผู้ชนะประมูล ในราคาค่าส่ง 18 เหรียญ คราวนี้ สมมติว่า คนขาย ไม่ใช้ ebay global shipping program และก็ไม่ยอมบอกค่าส่งเราด้วย มาดูกันว่าอะไรจะเกิดขึ้น |
![]() |
(
ภาพบน ) สมมติว่าค่าส่งที่แท้จริงคือ 18
เหรียญ ( อย่าลืมนะครับว่าในตัวอย่างที่จะพูดตอนนี้
คือเราสมมติว่าเราไม่ได้ใช้
ebay global shipping program แล้ว ) |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
![]() |
(
ภาพบน ) จากตัวอย่างที่ทีมงานอธิบายข้างบนนี้
คุณผู้อ่านจะเห็นได้ว่า ถ้าคนขายไม่ยอมบอกค่าส่งก่อน
และคนขายก็ไม่ยอมใช้บริการของ ebay global shipping program ด้วย
มันจะเกิดเหตุการณ์เรียงลำดับดังนี้ เหตุการณ์ที่ 1 - คนขายสามารถตั้งราคาค่าส่งเท่าไรก็ได้ เพราะถือว่าตอนที่เราลงประมูล เราได้ยอมรับแล้วว่า ยอมให้คนขายคิดค่าส่งเท่าไรก็ได้ ( คือ ถ้าเราไม่ยอมรับ เราก็จะไม่ลงประมูล แต่ถ้าเราลงประมูล ก็แปลว่าเรายอมรับเงื่อนไขของคนขายแล้วว่า ยอมให้คนขายตั้งราคาค่าส่งเท่าไรก็ได้นั่นเอง ) เหตุการณ์ที่ 2 - หากเราดันชนะประมูลในราคาต่ำ เช่นชนะประมูลเพียง 19.99 เหรียญ ทั้งๆที่ราคาทุนของสินค้านั้นคือ 100 เหรีรยญ / ทางคนขายก็จะเอาส่วนที่ขาดทุนนั้น ( ซึ่งก็คือ 100 - 19.99 = 80.01 เหรียญ ) เอาไปบวกกับค่าส่งทีแท้จริง ( ซึ่งค่าส่งที่แท้จริงคือ 18 เหรียญ ) จนทำให้เราต้องจ่ายค่าส่งใหม่คือ 80.01 + 18 = 98.01 เหรียญ คราวนี้ สมมติว่าเป็นอีกเหตุการณ์หนึ่ง คือเราถามทางคนขายไปว่า ส่งสินค้ามาไทยคิดราคาเท่าไร แล้วคนขายตอบเมลล์มาแบบข้างล่างนี้ |
![]() ![]() |
(
ภาพบน ) คือคนขายตอบมาว่า
เขาจะส่งด้วย ebay global shipping program ตรงข้อความในเมลล์ที่มี
ขีดเส้นใต้สีแดง ในภาพข้างบนนี้
เมลล์ข้างบนนี้ จะถือเป็นเงื่อนไข หรือข้อตกลงในทันที! |
![]() |
(
ภาพบน ) นั่นหมายความว่า ถ้าอีเบย์
ตีว่าค่าส่งของสินค้าชิ้นข้างบนนี้คือ 18 เหรียญแล้วล่ะก็
ทางอีเบย์ก็จะส่งสินค้าให้เราโดยคิดค่าส่ง 18 เหรียญทันที โดยไม่สนใจว่า
จะจบรายการประมูลของสินค้าชิ้นนี้ที่ 100 เหรียญ หรือจบที่ 19.99 เหรียญ พูดง่ายๆว่า เมื่อคนขายให้เงื่อนไขกับเรา ( ดังที่ปรากฏในเมลล์ข้างบนนี้ ) ว่า จะใช้บริการ ebay global shipping program ในการส่งสินค้าให้เรา มันก็จะเกิดเหตุการณ์เรียงลำดับดังนี้ เหตุการณ์ที่ 1 - คนขายไม่สามารถเปลี่ยนแปลงค่าส่งได้อีก เพราะคนขายได้ตกลงกับเราแล้วว่าจะให้ทางอีเบย์เป็นผู้ส่งของ ( ซึ่งก็คือการที่คนขายพูดว่า จะใช้บริการส่งของ ด้วย ebay global shipping ) เหตุการณ์ที่ 2 - หากอีเบย์ตีค่าส่งไว้แล้วว่าเป็น 18 เหรียญ ค่าส่งก็จะเป็นไปตามนี้ ( คือ 18 เหรียญ ) ไม่ว่าการประมูลสินค้านั้น จะจบที่ราคาเท่าใดก็ตาม เหตุการณ์ที่ 3 - ดังนั้น หากการประมูลจบลงที่ 19.99 เหรียญ และทำให้คนขายต้องขาดทุนไป 100 - 19.99 = 80.01 เหรียญ ก็จะไม่ส่งผลต่อการเพิ่มค่าส่งแต่อย่างใด เหตุการณ์ที่ 4 - ก็คือ เราจะเสียค่าใช้จ่ายทั้งหมดดังนี้คือ 19.99 เหรียญ ( ที่เราชนะการประมูล ) + 18 เหรียญ ( ค่าส่งที่อีเบย์ตีราคาไว้ ) = 37.99 เหรียญ เท่านั้น ( แต่ถ้าไม่ได้ใช้ ebay global shipping program แล้วล่ะก็ คุณผู้อ่านจะต้องเสียค่าใช้จ่ายถึง 98.01 เหรียญ เลยทีเดียวครับ ) สรุปว่า การที่คนขายไม่บอกค่าส่งเรา ( ว่ากี่เหรียญ กี่ปอนด์ ) แต่บอกเพียงว่า จะใช้การส่งของ ebay global shipping program มันก็เป็นผลดีกับเราในฐานะผู้ซื้อ หรือผู้ลงประมูลเหมือนกันครับ คือมันการันตีให้เราได้ว่า จะไม่โดนคนขายบวกค่าส่งเพิ่มในภายหลังแน่นอนครับ |
หน้าถัดไป |
1 > 2 |