การไปเสียภาษีที่ไปรษณีย์


       ในกรณีที่สินค้าที่เราสั่งซื้อไปนั้น  ทางศุลกากรเขาคิดภาษีมา   ทางศุลกากรเขาก็จะมีใบสีเขียวๆ หน้าตาเหมือนอันข้างล่างนี้มาส่งให้เราที่บ้านนะครับ


 


       ( ภาพบน ) โดยยอดเงินที่เราจะต้องเสียภาษีนั้น จะมีอยู่สองยอด คือยอดที่ต้องเสียภาษีให้กับทางศุลกากร 3,519 บาท ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ ) และเสียค่าปฏิบัติการให้กับทางไปรษณีย์อ่อนนุช ( คือ ที่ทำการไปรษณีย์ที่จ่ายของให้เรา ) อีก 20 บาท ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ ) ซึ่งเราจะชำระเป็นรวมกันในครั้งเดียวครับ / อันนี้ไม่ต้องไปกังวลอะไรครับ ก็แค่ให้รู้ยอดเท่านั้น เพราะเวลาไปไปรษณีย์ เราก็แค่ยื่นใบเขียวนี้ให้เขา พร้อมกับเงิน 3,519 + 20 = 3,539 บาทเท่านั้นเองครับ ที่เหลือเดี๋ยวทางไปรษณีย์เขาก็จัดการของเขาเอง

       สำหรับการไปรับของ ก็มีสองแบบนะครับ คือมอบอำนาจให้คนอื่นไปรับ หรือไปรับด้วยตัวเอง ซึ่งจะต่างกันก็คือเรื่องการเขียนเอกสารด้านหลังใบเขียวนั่นเองครับ

ให้คนอื่นไปรับของแทน  ดูตามรูปข้างล่างนี้นะครับ



 
 

       ( ภาพบน ) กรณีถ้าคุณลูกค้าไม่สะดวกที่จะไปรับของเอง ก็ให้พลิกเอกสารไปด้านหลัง แล้วเขียนรายละเอียดไปที่ส่วนของหัวข้อ "หลักฐานการมอบฉันทะ" ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพข้างบนนี้  ( ที่เห็นเป็นแถบดำนั้น คุณลูกค้าก็ต้องเขียนด้วยนะครับ เพียงแต่ว่าในภาพตัวอย่างนี้ ทางทีมงานทำแถบดำปิดเอาไว้ เพราะเป็นข้อมูลส่วนตัวของ Webmaster น่ะครับ



 
 

       ( ภาพบน ) หลังจากกรอกในส่วนของเรา ( ในฐานะผู้มอบอำนาจ ) เสร็จแล้ว ก็ให้ลูกน้องเรา กรอกตรงส่วนของ "คำรับรองการได้รับสิ่งของส่งทางไปรษณีย์" ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ / แนะนำว่าควรกรอกเสียตั้งอยู่ที่บ้านเลยครับ เพราะถ้าไปกรอกที่ไปรษณีย์มันจะฉุกละหุกมาก ไหนคนจะรอต่อคิว ,ไหนเจ้าหน้าที่จะยุ่ง ฯลฯ  ดังนั้น ถ้าเราทำเอกสารไว้ให้เรียบร้อยตั้งแต่ก่อนไปไปรษณีย์ ก็จะทำให้อะไร อะไร มันง่ายขึ้นครับ อันนี้เป็นประสบการณ์ที่ทีมงานได้มาจากการไป ที่ทำการไปรษณีย์บ่อยๆน่ะครับ ( ปีนึงประมาณสองร้อยกว่าครั้ง )



 
 

       ( ภาพบน ) ตรวจดูอีกครั้งนะครับ ว่าจะต้องมีเอกสารสามอย่างในภาพข้างบนนี้ให้ครบ นั่นก็คือ

       1.ใบเขียว

       2.สำเนาบัตรประชาชนผู้มอบอำนาจ ( คือสำเนาบัตรของคุณลูกค้าเอง )

       3.สำเนาบัตรประชาชนผู้รับมอบอำนาจ ( คือสำเนาบัตรของลูกน้องคุณ คนที่เราจะใช้ให้ไปเอาของแทนเรานั่นเองครับ )

       แล้วก็อย่าลืมฝากเงินค่าภาษีไปกับลูกน้องด้วยนะครับ! 


ไปรับของด้วยตัวเอง  ดูตามรูปข้างล่างนี้นะครับ



 
 

       ( ภาพบน ) ในกรณีที่ไปรับของด้วยตัวเอง ก็ให้คุณลูกค้ากรอกเฉพาะส่วนของ "คำรับรองการได้รับสิ่งของส่งทางไปรษณีย์" ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่เพียงที่เดียวครับ ไม่ต้องสนใจส่วนอื่นเลย ( ผมทำแถบดำปิดไว้ให้ คือหมายความว่า ไม่ต้องสนใจในส่วนของแถบดำในภาพข้างบนนี้เลยครับ เอาแค่กรอกในส่วนที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ก็พอแล้วครับ


 
 

       ( ภาพบน ) ถ้าไปเสียภาษี และไปรับของด้วยตัวเอง ก็ใช้แค่ใบเขียวกับบัตรประชาชนของเราก็พอครับ ( ไม่ใช้สำเนาครับ ให้ใช้บัตรประชาชนตัวจริง )


เตือนครั้งสุดท้ายก่อนไปชำระภาษี - เพื่อป้องกันการผิดพลาด  ดังนั้น ก่อนจะออกจากบ้านเพื่อไปทำการเสียภาษี  หรือก่อนจะให้ลูกน้องไปเสียภาษีให้เรา  ก็ขอให้ตรวจสอบ 3 เรื่อง ( ดังข้างล่างนี้ ) อีกครั้งนะครับ ว่าชัวร์หรือยัง



 

1.สถานที่ไปเสียภาษี - ( ภาพบน )ให้พลิกมาดูด้านหน้าของใบเขียว และดูบริเวณที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ให้ดีนะครับ ว่าเขาให้ไปเสียภาษีที่ไหน  คือเขาจะกำหนดไว้ตรงนี้  ( ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ ) ไม่ใช่ไปตามใจชอบนะครับ

       ที่ทำการไปรษณีย์ใกล้บ้านที่สุดของ Webmaster ก็คือที่ห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์  ทาง Webmaster ก็ไม่สามารถไปเสียภาษีที่ซีคอนสแควร์ได้ครับ  ต้องขับรถไปอีกเป็น 10 กม. เพื่อไปชำระภาษี ณ.ที่ทำการไปรษณีย์อ่อนนุชโน่นเลย  เพราะเขากำหนดไว้อย่างนั้น ( คือหมายความว่า ของที่เราจะไปรับนั้น มันจะอยู่ ณ.ที่ทำการไปรษณีย์ ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ น่ะครับ ดังนั้น เราจึงต้องไปเสียภาษีที่นั่น แล้วรับของที่นั่น )



 

2.เอกสารที่ต้องใช้ ( ภาพบน )


 
blogkru.com 

3.เงินที่จะเอาไปจ่ายเจ้าหน้าที่ - อันนี้สำคัญนะครับ เตรียมหลักฐานให้ลูกน้องไปอย่างดี แต่ปรากฏว่าดันลืมฝากเอาเงินให้ไปด้วย ก็ต้องเสียเวลากลับมาเอาเงินอีก อุตส่าห์รอเข้าคิวต่อแถวตั้งนานกว่าจะถึงคิวเรา ( ไม่ใช่ว่าไปถึงแล้วก็รับได้เลยนะครับ บางทีก็รอเกือบยี่สิบนาที เพราะต้องรอคิว คือคนที่เข้าคิวก่อนหน้าเรา และเสียภาษีก่อนหน้าเรานั้น บางทีเจ้าหน้าที่ก็ต้องเสียเวลาไปค้นหาของให้คนก่อนหน้าเราคนนั้น ตั้งนานแน่ะครับ เพราะเขาไม่ได้เตรียมของไว้รอเรานะครับ เพราะเขาไม่รู้ว่าเราจะไปรับของวันไหน ดังนั้น เขาจะเก็บของทั้งหมด ( ทั้งของๆเรา และของๆคนอื่นๆ ) ไว้ในโกดังอีกส่วนหนึ่ง / แล้วเวลามีคนไปเสียภาษี เขาก็จะไปค้นเอาของนั้นมาให้ ซึ่งก็จะต้องเสียเวลาตรงนี้นานพอสมควร  )

       ควรมีแบ็งค์ปลีก แบ็งค์ย่อย และเหรีญด้วยนะครับ มันจะได้เร็วขึ้น เผื่อเจ้าหน้าที่เขาไม่มีเหรียญ ไม่มีแบ็งค์ปลีกไว้ทอนเราน่ะครับ ( ซึ่งส่วนมากก็จะเป็นอย่างนั้น คือเจ้าหน้าที่เขาจะไม่ค่อยเตรียมเรื่องเงินทอนน่ะครับ / คือว่าแผนกของการเสียภาษีนี้ มันจะอยู่คนละส่วนกับแผนกรับส่งไปรษณีย์ทั่วไปนะครับ / ในส่วนของแผนกรับส่งไปรษณีย์ทั่วไปนั้น มันจะอยู่อีกส่วนหนึ่ง ซึ่งส่วนนั้น เขาจะมีแบ็งค์ย่อย แบ็งค์ปลีก และเหรียญ เตรียมเอาไว้รอทอนให้ลูกค้า  / แต่ว่าที่แผนกเสียภาษีนี่ ไม่ค่อยพร้อมเรื่องการทอนเงินสักเท่าไรน่ะครับ  ดังนั้น เราจึงควรเตรียมเงินไปพอดี พอดี จะได้ไวขึ้นครับ - อันนี้เป็นประสบการณ์นะครับ )


 
ดีใจจัง ได้รับของมาแล้ว! 



- END -