ถามคนขายไปกี่ฉบับ ก็ไม่ยอมตอบ
(แล้วจะทำให้ทีมงานทำยังไงครับ? ก็เขาไม่ยอมตอบ)


       ปัญหาอย่างหนึ่งที่ทีมงาน Tuvagroup.com เจอ ( ถึงแม้จะเจอไม่บ่อย แต่ก็ต้องยอมรับว่ามีเจอเหมือนกันครับ ) ก็คือ หลังจากโอนเงินไปให้คนขายแล้ว และมีปัญหาข้อข้องใจ หรือเมลล์ตามทวงของ ก็ปรากฏว่า ไม่ว่าจะเมลล์ไปหาคนขายกี่ฉบับ  คนขายก็ไม่ยอมตอบ ไม่ยอมให้ข้อมูลอะไรเลย เหมือนในเมลล์ข้างล่างนี้




 


       ( จากภาพบน ) คนขายตอบกลับมาวันที่ 5 ธ.ค. ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ ) ว่าของหมด ให้เปลี่ยนเป็นไซส์ที่ใหญ่ขึ้น และต้องเพิ่มเงิน  / หลังจากนั้น ทีมงานก็คุยกับลูกค้าแล้ว ลูกค้าขอเปลี่ยนสินค้าเป็นลิงค์อื่น ( คือจะไม่เปลี่ยนไซส์ แต่จะขอเปลี่ยนตัวสินค้า ) หรือไม่ก็ขอคืนเงิน / จากนั้น ทางทีมงานก็เมลล์ไปหาคนขาย พร้อมกับต่อว่าเรื่อง การที่ว่าทำไมครั้งแรก มีคำว่า in stock ( คือ มีของในสต๊อก ) แล้วพอโอนเงินไปแล้ว กลับบอกว่าของไม่มี บริการแย่มาก ฯลฯ / ซึ่งเมลล์ฉบับนั้น ( ฉบับที่ต่อว่าคนขาย ) ไม่ได้เอามาโชว์ให้ดู เพราะเห็นว่ามันยาวไป

       จากนั้น ทีมงานก็เริ่มเมลล์ทวงคนขายว่า ตกลงจะเปลี่ยนลิงค์สินค้าให้ หรือจะคืนเงิน / โดยทีมงานเมลล์ทวงไปเกือบทุกๆสองวันเลยทีเดียว  ไล่เวลาตามที่มี ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพข้างบน ( ซึ่งจริงๆแล้ว ทีมงานทวงบ่อยกว่าที่เห็นในภาพข้างบนนี้อีกครับ แต่ตัดเอามาให้ดูบางส่วน

       ความจริงแล้ว มันก็ไม่ใช่คำถามที่ยากอะไร คือเป็นแค่สองตัวเลือกคือ 1.ให้เปลี่ยนสินค้า หรือ 2.ให้เงินคืน  แค่คนขายตอบมาว่าเลือกอันไหน อันใดอันหนึ่งให้เรา มันก็จบแล้ว / แต่ คนขายเลือกที่จะไม่ตอบอะไรกลับมาเลย

       พอคนขายไม่ตอบอะไรกลับมา  ทางทีมงานก็เลยไม่มีข้อมูลอะไรไปแจ้งลูกค้า

       พอลูกค้าเห็นว่าทีมงานเงียบไป ไม่ให้ข้อมูล ก็ฉุนทีมงาน ที่ทีมงานไม่ตอบอะไรลูกค้าเลย (
เหมือนกับที่ทีมงานฉุนคนขาย ว่าทำไมไม่ตอบอะไรกลับมาเลย )

       สุดท้าย ทีมงานกับลูกค้า ก็เลยทะเลาะกัน  ทั้งๆที่ความผิดมันอยู่ที่คนขาย (
ที่ไม่ยอมตอบอะไร และมีระบบบริหารเวบที่ห่วย คือ ไม่มีของใน Stock แต่ดันขึ้นหน้าเวบไว้ว่ามีของ In Stock  ) / ซึ่งถ้าจะว่ากันตามเนื้อผ้าแล้ว ทางคุณลูกค้าควรจะ "แฟร์" กับทีมงานนะครับ ( คือไม่ควรต่อว่าทีมงาน )  เพราะว่า

       ลิงค์สินค้าอันนี้ (
ที่ส่งมาให้ทีมงานซื้อสินค้านี้ให้ ) เป็นลิงค์ที่ คุณลูกค้าเลือกมาเอง ดังนั้น ถ้าถึงคราวเคราะห์ว่าการบริหารของลิงค์นี้มันห่วย ( เช่น ไม่มีของใน Stock แต่ดันขึ้นหน้าเวบไว้ว่ามีของ In Stock เพื่อหลอกให้เราโอนเงินไปให้ก่อน ) ก็เป็นความผิดของใครล่ะครับ? ก็ต้องเป็นความผิดของผู้ขาย ( ที่มีระบบบริหารที่ห่วย ) และเป็นคราวเคราะห์ของคุณลูกค้าเอง ( ที่ไปเลือกลิงค์นี้มา ) ไม่ใช่ความผิดของทีมงานเลย

       การที่ทีมงานโอนเงินไปให้คนขายเรียบร้อยแล้ว ก็ถือว่า ทีมงานได้ทำหน้าที่เสร็จเรียบร้อยไปแล้ว เพราะทีมงาน ไม่มีหน้าที่ตามของให้คุณลูกค้า นะครับ เพราะค่าบริการ 75 บาท มันเป็นเหมือนค่าเช่าบัตรเครดิตในการสั่งซื้อของให้คุณลูกค้าเท่านั้น ซึ่งก็ถูกแสนถูกอยู่แล้ว

       นั่นหมายความว่า การที่เราโอนเงินไปให้คนขายแล้ว คนขายไม่มีของให้เรา อย่างนี้ ถือว่า คนขายเป็นลูกหนี้เรา  เราทวงของเขาได้ เราด่าเขาได้  / "แต่" การที่ทีมงาน Tuvagroup.com โอนเงินไปให้คนขายแล้ว ก็ถือว่าหมดหน้าที่ของทีมงานไปแล้ว ซึ่งก็แปลว่า ทีมงาน Tuvagroup.com ไม่ใช่ลูกหนี้ของคุณลูกค้าอีกต่อไปแล้ว นะครับ (
แต่ถ้าทีมงาน Tuvagroup.com รับเงินมาจากคุณลูกค้าแล้ว แต่ยังไม่ได้โอนเงินไปให้คนขาย อย่างนี้ ก็ถือว่าทีมงาน Tuvagroup.com ยังเป็นลูกหนี้ของคุณลูกค้าอยู่  อย่างนี้ คุณลูกค้ามีสิทธิเต็มที่ ที่จะสอบถามความคืบหน้ากับทีมงานได้เต็มที่ครับ ไม่ต้องเกรงใจ )

       ดังนั้น การที่ทีมงาน ช่วยเมลล์ไปทวงไปถามคนขายให้ จึงเป็นเรื่องของ น้ำใจล้วนๆ เลยนะครับ เพราะจริงๆแล้ว ทีมงานหมดหน้าที่ไปแล้วตั้งแต่โอนเงินให้คนขายเสร็จเรียบร้อยแล้ว

       แล้วพอทีมงานเมลล์ทวงถามคนขายไปให้ (
อย่างที่เห็นในภาพข้างบน ) แล้วคนขายเขาไม่ตอบ  ทีมงานก็เลยไม่มีข้อมูลอะไรมาบอกคุณลูกค้า / ซึ่งคุณลูกค้าก็เห็นว่าทีมงานเงียบ และก็เริ่มมองว่าทีมงานเป็นลูกหนี้ ที่ไม่ยอมให้คำตอบอะไรเลย ก็มาใส่อารมณ์กับทีมงานอีก / คิดว่ามันแฟร์กับทีมงานไหมล่ะครับ อย่างนี้

ทิ้งท้าย - การซื้อสินค้าจากต่างประเทศมันก็เป็นอย่างนี้ล่ะครับ คือมันจะมีเรื่องที่ทำให้เราไม่พอใจเกิดขึ้นได้เสมอๆ มันจะไม่สมบูรณ์แบบเหมือนการสั่งซื้อสินค้าในบ้านเราเองหรอกครับ เพราะการสั่งซื้อสินค้าในบ้านเรานั้น ถ้าคนขายงี่เง่า เราก็ตามไปด่าเขาถึงหน้าบ้านได้ หรือไม่ก็ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงกับเขาได้ ถ้าเขาไม่ส่งสินค้าให้เรา / แต่ว่าการสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศมันจะต่างออกไป คือ ถ้าจะดำเนินคดีกับเขา ก็เป็นคดีระหว่างประเทศ ค่าจ้างทนายก็เป็นแสนๆบาทแล้ว มันไม่คุ้ม

       แม้ว่า 99% ของลูกค้าของทีมงาน Tuvagroup.com จะได้รับสินค้าครบถ้วน / แต่มันก็มีอีก 1% ที่ไม่ได้รับของเช่นกัน  นั่นหมายถึงว่า

       คุณลูกค้าต้องถามตัวเองก่อนว่า เป็นคนขี้วิตก ขี้กังวลไหม เพราะบางที ของมันก็ได้ตามปกติ เพียงแต่ว่าจะมาช้าหน่อย บางทีก็ช้าไปถึงสองเดือนก็มี / ถ้าคุณลูกค้าเป็นขี้วิตก ขี้กังวล ก็อย่าฝากซื้อสินค้าจากต่างประเทศเลยครับ เพราะมันจะเครียดเปล่าๆ (
เครียดทั้งคุณด้วย เครียดทั้งทีมงานด้วย )

       เวลาที่ทีมงาน Tuvagroup.com สั่งซื้อสินค้าให้คุณลูกค้านั้น ทีมงาน ก็อยากให้คุณลูกค้าได้รับสินค้าสมใจ / แต่ถ้ามันจะพลาดจริงๆ คือคุณลูกค้าไปอยู่ใน 1% ที่พลาด ( ตามที่ทีมงานพูดไว้ข้างต้น ) มันก็ต้องทำใจนะครับ อย่าได้มาโกรธหรือทะเลาะกับทีมงานเลย / ถ้าไม่อยากเสี่ยง คือไม่อยากเข้าไปอยู่ใน 1% ที่ว่านี้ ก็ต้องซื้อสินค้าในประเทศเอาครับ  อย่าฝากซื้อสินค้าจากต่างประเทศเลย

       ความขี้วิตกก็ดี ความที่ไม่อยากเสี่ยงไปอยู่ใน 1% ที่ทีมงานพูดไว้ก็ดี  จะพาให้คุณลูกค้าไป "เป็นเหยื่อ" ของเวบรับฝากซื้อสินค้าเจ้าอื่น ที่ออกมาประกาศตัวว่า "รับประกัน 100% ว่าได้รับของถึงมือแน่ แต่ต้องจ่ายแพงหน่อยนะ" / ถ้าคุณไม่อยากเจอเวบรับฝากซื้อสินค้าประเภทนี้หลอกเอา  คุณต้องบอกผู้ให้บริการพวกนี้ไปว่า  ฉันจะยังไม่จ่ายเงินใดๆทั้งสิ้น  จนกว่าของจะถึงมือ  / เพราะคุณ ( หมายถึงผู้ให้บริการ ) บอกเองนี่ว่าถ้าฉันยอมจ่ายแพง  ยังไงๆ ฉันก็จะได้รับของ 100% อยู่แล้ว / ดังนั้น ฉันก็จะยอมจ่ายแพง ตามที่คุณขอมา "แต่" จะจ่ายก็ต่อเมื่อฉันได้รับของถืงมือแล้วเท่านั้น  

       แล้วดูสิว่าผู้ให้บริการพวกนี้ เขาจะตอบคุณยังไง? รับรองหนีหมดล่ะครับ เพราะมันทำไม่ได้ไงครับ เพราะผู้ให้บริการ (
ขี้โม้ ) พวกนี้ ก็เป็นพวกกินตามน้ำทั้งนั้นแหละครับ คือถ้า Case ไหนทำได้ ก็เอามาโฆษณาว่า นี่ไง ผลงานของฉัน / ส่วน Case โดนศุลการยึดของไป  ผู้ให้บริการก็ทำเงียบ / ดังนั้น ถ้าคุณทำได้จริงตามที่คุณพูดไว้ คุณก็ต้องเอาของมาถึงมือลูกค้าให้ได้ก่อนสิครับ แล้วค่อยรับเงินจากเขาไป

ปล. - อย่าหลงกลมุขที่ว่า จ่ายแค่ 10 % ก่อนก็ได้ แล้วของมาถึง ค่อยจ่ายอีก 90% / เพราะพอคุณจ่ายให้ผู้ให้บริการรายนี้ไป 10% แรกล่ะก็ ต่อไป มันก็จะทะยอยมีรายจ่ายเพิ่มมาอีกเรื่อยๆ ไอ้ครั้นเราจะยกเลิกกลางคัน เขาก็จะบอกว่า ถ้าอย่างนั้น เงินที่ลงไปก่อนหน้านี้ ก็จะสูญทั้งหมด  ไม่สามารถคืนเงินให้คุณได้ / เราก็เลยไม่กล้ายกเลิก และต้องทะยอยจ่ายไปเรื่อยๆ  / และพอจ่ายไปครบแล้ว สุดท้าย ก็ต้องมาลุ้นกันต่ออีกว่า สินค้าจะผ่านด่านศุลกากรไหม / ถ้าผ่าน - ผู้ให้บริการ ก็จะเอาเคสของคุณไปโฆษณาว่าเขาสามารถทำได้ / แต่ถ้าไม่ผ่าน - เขาก็ทำเงียบๆ และบอกคุณว่า ก็ศุลกากรเขายึดนี่นา จะทำให้ยังไง

       สรุปว่า ไม่ว่าคุณจะจ่ายถูก (
คือเสียแค่ 75 บาท จ้างทีมงาน Tuvagroup.com ) หรือจ่ายแพง ( คือจ้างพวกให้ความหวังว่าได้รับของ 100% ) สุดท้ายแล้ว ของทั้งหมด ก็จะต้องมาลุ้นกันที่ด่านศุลกากรอยู่ดีล่ะครับ / ดังนั้น ถ้าเป็นผม ผมจะเลือกการเสียค่าบริการแค่ 75 บาทด้วยการจ้างทีมงาน Tuvagrop.com ดีกว่า

       ทีมงาน Tuvagroup.com เปิดให้บริการมาหลายปีแล้ว รู้ว่าอันไหนทำได้ อันไหนทำไม่ได้  ไม่อย่างนั้น ทางทีมงาน Tuvagroup.com เอง คงจะเปิดให้บริการแบบ "รับรองผล 100% ว่าได้รับของแน่ แต่จ่ายแพงหน่อย" (
แยกออกมาจากการให้บริการแบบ 75 บาทตามปกติ )  ไปแล้วล่ะครับ  แต่เพราะทีมงานรู้ว่ามันทำไม่ได้ไงครับ ก็เลยไม่อยากหลอกกินเงินลูกค้าน่ะครับ


- END -