การคิดภาษี Import Fees Deposit และ Import Charges


* * * หากภาพในหน้าเวบนี้ขึ้นไม่ครบ กรุณาคลิ๊กที่ปุ่ม "Reload this page" นะครับ  /  ถ้าหาปุ่มนี้ไม่พบ ให้อ่านคำแนะนำที่ลิงก์นี้ครับ  http://www.tuvagroup.com/7fvhp-A-03-Q-591211-1724.html 

- - - - - - - - - - - - - - - - - - -

      
ในเวบขายสินค้าออนไลน์ดังๆระดับโลก เช่นเวบอะเมซอน และเวบอีเบย์ นั้น จะมีผู้ขายหลายคนจากทั่วโลก นำสินค้ามาวางขาย มีทั้งสินค้าที่เหมือนกัน และสินค้าที่แตกต่างกัน

       สำหรับสินค้าที่เหมือนกันนั้น ก็จะมีทั้งพ่อค้าที่วางขายโดยรวมค่าภาษีเข้าไปในค่าใช้จ่ายด้วย  และก็มีทั้งพ่อค้าที่ไม่ได้รวมค่าภาษีเข้าไปในค่าใช้จ่ายด้วย

       สำหรับพ่อค้าที่วางขายโดยรวมค่าภาษีเข้าไปในค่าใช้จ่ายด้วยนั้น  ถ้าเป็นคนขายที่ขายของอยู่ในเวบอะเมซอน เราจะเรียกการคิดภาษีตัวนั้นว่า Import Fees Deposit / ถ้าเป็นคนขายที่ขายของอยู่ในเวบอีเบย์ เราจะเรียกการคิดภาษีตัวนั้นว่า Import Charges




( ภาพบนสินค้าในเวบอะเมซอน ที่มี Import Fees Deposit

https://www.amazon.com/Yankees-47-Brand-Clean-One-Size/dp/B000F5NNPY/ref=pd_cart_vw_1_1?ie=UTF8&psc=1&refRID=FS1ZCFS4BKNBS7VB5K70

  




 
( ภาพบน ) สินค้าในเวบอีเบย์ ที่มี Import Charges

eBay item number : 172144748511

New Power Steering Hose 325 323 328 330 Coupe Sedan E46 3 Series E90 32416774215

http://www.ebay.com/itm/172144748511


       ( ภาพบน )  จำนวนเงินที่อยู่ใน กรอบสี่เหลี่ยมสีเขียว ที่อยู่ใน 2 ภาพข้างบนนี้ ก็คือการคิดภาษีที่ทีมงานพูดถึงนั่นเองครับ 

       ย้อนกลับมาดูที่คำพูดที่ว่า คนขายบางคนก็คิดภาษีนี้ไว้ให้  แต่คนขายบางคนก็ไม่คิดภาษีนี้ไว้ / เมื่อได้ฟังดังนี้แล้ว คุณผู้อ่านก็อาจคิดว่า ถ้าอย่างนั้น เราก็เลือกซื้อกับคนขายที่ไม่คิดภาษีนี้สิ  จะไปเสียภาษีตัวนี้ (  คือ Import Fees Deposit และ Import Charges ) ทำไมกัน?

       ที่คุณผู้อ่านคิดอย่างนั้น ก็เพราะว่าคุณผู้อ่านยังไม่เข้าใจว่า Import Fees Deposit และ Import Charges คืออะไร?  มีข้อดีข้อเสียอย่างไร / ซึ่งถ้าคุณผู้อ่านได้เข้าใจว่า Import Fees Deposit และ Import Charges คืออะไรแล้วล่ะก็  บางทีคุณผู้อ่านอาจจะ "อยากเลือก" สินค้าที่มี Import Fees Deposit และ Import Charges เลยก็ได้



 

       ( ภาพบน )  จริงๆแล้ว ค่าใช้จ่ายเรื่องภาษีของสองตัวนี้ มันมีหลักการทำงานเหมือนกันเลยครับ เพียงแต่ว่าทางเวบอะเมซอน เขาเรียกการเก็บภาษีตัวนี้ว่า Import Fees Deposit  / ส่วนเวบอีเบย์ เรียกการเก็บภาษีนี้ว่า Import Charges ก็เท่านั้นเอง ( แต่หลักการทำงานเหมือนกัน )  ดังนั้นจึงสามารถอธิบายรวมกันได้เลย  โดยคำอธิบายเป็นดังนี้ครับ

       สมมติว่าเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว คนขายที่อยู่ต่างประเทศ ได้ขายสินค้าชิ้นหนึ่งให้กับลูกค้าคนไทยชื่อ "ก." แล้วพอสินค้านั้น เข้ามาในประเทศไทย ก็ปรากฏว่า "ก." ต้องเสียภาษีไป 150 บาท ( สมมตินะครับ )

       ต่อมา ในเดือนถัดมา คนขายคนเดิม ได้ขายสินค้าแบบเดิม ให้กับลูกค้าคนไทยคนใหม่ที่ชื่อ "ข." แล้วพอสินค้านั้น เข้ามาในประเทศไทย ก็ปรากฏว่า "ข." ต้องเสียภาษีไป 150 บาทอีก ( คือเสียภาษีเท่ากับนาย ก. ที่ซื้อไปเมื่อเดือนที่แล้ว )

       ในเดือนถัดมา มีลูกค้าคนไทยชื่อ "ค." กำลังจะสั่งซื้อสินค้าแบบเดียวกันนี้กับคนขายคนนี้อีก / คนขายคนนี้เห็นแล้วว่า ทั้งนาย ก. และนาย ข. ต่างก็เสียภาษีสำหรับสินค้าชิ้นนี้เท่ากัน คือ 150 บาท ดังนั้น คนขายจึงคิดบริการขึ้นมาใหม่ต่อ นาย ค. โดยคนขายบอกนาย ค.ว่า "เอาอย่างนี้ไหม? คุณโอนค่าภาษีมาให้ผมด้วยเลย 150 บาท ( คือโอนมาพร้อมค่าสินค้าและค่าส่ง ) แล้วเดี๋ยวพอสินค้าเข้าไทยแล้ว พอคุณโดนศุลกากรเรียกเก็บภาษี คุณก็ไม่ต้องจ่าย แต่ผมจะเป็นผู้จ่ายแทนคุณเอง  คุณจะได้ไม่ต้องยุ่งยากในการเดินทางไปเสียภาษี"

       นาย ค. เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะขี้เกียจเดินทางไปเสียภาษี ก็เลยโอเคตามที่คนขายแนะนำ คือ โอนเงิน 150 บาทไปพร้อมกับค่าสินค้าและค่าส่ง ไปให้คนขายคนนี้เลย

       ไอ้เจ้าเงิน 150 บาทที่นาย ค.โอนไปให้คนขายนี่แหละ คือคำศัพท์ที่เวบอะเมซอนเรียกว่า Import Fees Deposit  และเวบอีเบย์เรียกว่า Import Charges นั่นเอง

       พูดง่ายๆว่า มันก็คือการ "โอนเงินค่าภาษีไปก่อนล่วงหน้า ( ทั้งๆที่ยังไม่มีการเก็บภาษีจากศุลกากรเกิดขึ้น ) เพื่อให้คนขายถือไว้ในมือก่อน" / แล้วต่อมาภายหลัง เมื่อศุลกากรเรียกเก็บเงินภาษี  ทางผู้ขายก็จะเป็นผู้ทำหน้าที่เอาเงินที่เราโอนให้ล่วงหน้านั้น ( 150 บาท ) ไปชำระให้แก่เจ้าหน้าที่ศุลกากร"  นั่นเอง / ซึ่งข้อดีก็คือ ทำให้ลูกค้าไม่ต้องยุ่งยากในการเดินทางไปเสียภาษีด้วยตัวเอง
 

       "แต่" ถ้าสมมติว่านาย ค. ไม่เห็นดี เห็นงามกับความคิดของคนขายคนนี้ ( คือไม่เห็นดีเห็นงามกับความคิดของคนขาย ที่พูดกับนาย ค.ว่าให้โอนเงินค่าภาษีล่วงหน้าไปให้คนขายถือไว้ในมือก่อน )   นาย ค.ก็จะเปลี่ยนใจไปซื้อสินค้ากับผู้ขายเจ้าอื่นที่เขาไม่คิดเงิน 150 บาทตรงนี้

       ซึ่งผลของการกระทำนั้น ( ซึ่งก็คือการที่ นาย ค. เปลี่ยนไปซื้อกับคนขายเจ้าอื่นที่ไม่ได้เรียกเก็บเงิน Import Fees Deposit หรือ Import Charges จากลูกค้า )  สิ่งที่เกิดขึ้นตามมาก็คือเมื่อสินค้าชิ้นนั้น ( ที่นาย ค. ซื้อกับคนขายคนอื่นนั้น ) ผ่านเข้ามาในประเทศไทย  นาย ค.ก็โดนเรียกเก็บเงิน 150 บาทเป็นค่าภาษีจากศุลกากรในไทยเราอยู่ดี 



 

       หากคุณผู้อ่านเป็น "นาย ค." คุณผู้อ่านอาจคิดว่า ก็ในเมื่อ นาย ก. และนาย ข. ที่ซื้อสินค้าชิ้นเดียวกันกับเรา จากคนขายคนเดียวกัน ยังเสียภาษี 150 บาทให้ศุลกากรไทยเลย  ดังนั้น การที่เราจะจ่าย 150 บาทไปให้กับทางคนขายเลย เพื่อให้คนขายเขาทำหน้าที่เสียภาษีแทนเรา มันก็สะดวกสบายกับเราแล้วนี่นา ( คือ นาย ค.คิดว่าการจ่าย 150 บาท ไปให้ผู้ขายเสียภาษีให้นั้น มีแต่ข้อดี )

       ที่นาย ค. มองเห็นแต่ข้อดีของการจ่าย Import Fees Deposit  หรือ Import Charges เป็นเงิน 150 บาทไปให้กับคนขายนั้น ก็เพราะนาย ค. มีสมมติฐานว่า ในเมื่อ นาย ก. และนาย ข. ก็ต้องจ่ายค่าภาษี 150 บาท ให้กับศุลกากรไทย ดังนั้น นาย ค. ก็ต้องจ่ายค่าภาษี 150 บาทให้กับศุลกากรไทยด้วยเช่นกัน ( ก็เลยโอนไปให้ทางคนขายเป็นผู้ทำหน้าที่จ่ายแทนเรา ) แต่ความจริงแล้ว สมมติฐานของนาย ค.นั้นผิด ( สมมติฐานของ นาย ค.คือ นาย ค.คิดว่า ยังไงเขาก็ต้องจ่ายภาษี 150 บาทอยู่ดี )

       ที่ทีมงานบอกว่าสมมติฐานของ นาย ค.ผิดก็เพราะว่า จริงๆแล้ว แม้ว่านาย ก. และนาย ข. ซึ่งเป็นลูกค้าของคนขายคนนี้ จะเสียภาษีให้กับศุลกากรไทย 150 บาททั้งสองคน   "แต่" นาย ค.อาจจะไม่ต้องเสียเงินค่าภาษีเลยสักบาทก็ได้ ( ให้อ่านข้อเท็จจริงเรื่องนี้ได้ที่ลิงค์   http://www.tuvagroup.com/Efvhp-A-02-V-590512-2229.html   )

       และสมมติว่าท้ายที่สุดแล้ว นาย ค. ก็ไม่ได้เสียเงินค่าภาษีให้กับศุลกากรไทยเลยสักบาท แต่การที่นาย ค. โอนเงิน 150 บาทให้กับคนขายไปแล้ว  คนขายเขาเอาไปเลยนะครับ เขาไม่คืนนะครับ ( เขาเรียกว่า คนขายได้ "เงินกินเปล่า" เข้ากระะเป๋าไปเลยนั่นเอง )

       ส่วนนาย ค.ก็คิดไปเองว่า ทางคนขายคงจะทำหน้าที่จ่ายค่าภาษีให้ศุลกากรไทยไปแล้ว 150 บาท ก็เลยไม่รู้ว่าคนขายเอา "เงินกินเปล่า" เข้ากระเป๋าตัวเองไปแล้ว ( นั่นก็เพราะ นาย ค.คิดตามสมมติฐานของตัวเอง นั่นก็คือ ในเมื่อ นาย ก. และนาย ข. ต้องเสียภาษี 150 บาท ดังนั้น ตัวเขาก็ต้องถูกทางศุลกากรไทย เรียกภาษี 150 บาทเหมือนนาย ก. และนาย ข. )

       และนี่แหละ คือ ข้อเสีย ของการซื้อสินค้าที่มี Import Fees Deposit  หรือ Import Charges 

       ถ้าอ่านแล้วยัง งงๆ ผมก็สมมติเหตุการณ์ให้ดูใน ตารางสีเหลือง ข้างล่างนี้เลยนะครับ



 
* * * สมมติว่าคุณซื้อสินค้าแบบที่มี Import Fees Deposit  หรือ Import Charges ( ซึ่งก็คือการที่คุณโอนเงินค่าภาษี 150 บาท ( สมมติ ) ไปให้ทางคนขาย เพื่อให้คนขายดำเนินการจ่ายค่าภาษีแทนคุณ )

       เมื่อสินค้าดังกล่าวมาถึงด่านศุลกากร  มันจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น 2 อย่าง ( อย่างใดอย่างหนึ่ง ) นั่นก็คือ

theplaymania.com

เหตุการณ์ที่ 1 - บังเอิญว่าวันนั้น  เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ทำการตรวจสอบกล่องพัสดุที่ใส่สินค้าของคุณ  เป็นเจ้าหน้าที่ ที่ "เป๊ะๆ" / "เคร่งเครียด" / "ไม่อะลุ่มอล่วย" / "ตรงเป็นไม้บรรทัด" / "ยึดระเบียบศุลกากรทุกตัวอักษร" และระเบียบศุลกากรก็บอกไว้ชัดเจนว่า สินค้ามูลค่าเกิน 1 พันบาทต้องเสียภาษีศุลกากรหมด

       ผลที่เกิดขึ้นก็คือ เจ้าหน้าที่ศุลกากรคนนี้ ก็คิดภาษีคุณ 150 บาท

       และเมื่อเจ้าหน้าที่ศุลกากรคนนี้ คิดภาษีคุณ 150 บาท  ทางคนขาย เขาก็จะเอาเงินที่คุณโอนไปให้เขา ( คือตัว Import Fees Deposit  หรือ Import Charges ) มาจ่ายภาษีตรงนี้ให้   คุณก็เลยไม่ยุ่งยาก เพราะคนขายทำหน้าที่จ่ายภาษีแทนคุณไปแล้ว


* * * ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ 1 นี้  ก็นับว่า นี่คือ "ข้อดี" ของการซื้อสินค้าแบบที่มี Import Fees Deposit  หรือ Import Charges / ซึ่งก็คือการที่ลูกค้าอย่างคุณ ไม่ต้องยุ่งยากเรื่องการเดินทางไปเสียภาษี

       คราวนี้ ลองมาดูอีกเหตุการณ์หนึ่ง

pinterest.com

เหตุการณ์ที่ 2 - บังเอิญว่าวันนั้น  เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ทำการตรวจสอบกล่องพัสดุที่ใส่สินค้าของคุณ  เป็นเจ้าหน้าที่ ที่ "ใจดี" / "อะลุ่มอล่วย" / คิดว่า ถ้าเก็บภาษีกับทุกกล่องพัสดุที่เข้ามาในไทยแล้วล่ะก็  อีกหน่อยคนก็จะเลิกซื้อสินค้าจากต่างประเทศ เพราะว่า ...

       พอซื้อสินค้าจากต่างประเทศ แล้วมาเจอภาษีบวกเข้าไป  ผลรวม ( คือค่าสินค้า + ค่าภาษี ) มันก็พอๆกับการหาซื้อสินค้าแบบเดียวกันนี้ในประเทศไทยเลย


       ถ้าค่าใช้จ่ายพอๆกัน อย่างนี้ คนก็ซื้อของในไทยดีกว่า ไม่ยุ่งยากดี


       ถ้าคนซื้อของในไทยกันหมด ก็ไม่มีคนสั่งซื้อสินค้าจากต่างประเทศ


       ถ้าไม่มีการซื้อสินค้าจากต่างประเทศ  ศุลกากรก็จะไม่มีรายได้จากการเก็บภาษีที่ด่านศุลกากร ( ศุลกากร ขาดรายได้ ว่ายังงั้นเถอะ )



       เจ้าหน้าที่ศุลกากรผู้ใจดีคนนี้ ก็จะคิดต่อว่า "อย่ากระนั้นเลย  เราต้องผ่อนผันบ้าง ด้วยการไม่คิดภาษีกับ "กล่องพัสดุกล่องนี้"  คนจะได้มีกำลังใจที่จะซื้อของต่างประเทศต่อไป แล้วศุลกากรก็จะได้มีรายได้จากการเก็บภาษีในครั้งต่อๆไป"

       แล้วบังเอิญว่า ไอ้เจ้า "กล่องพัสดุกล่องนี้" มันเป็นกล่องพัสดุของคุณพอดี

       นั่นก็หมายความว่า คุณไม่ต้องเสียภาษี 150 บาท

       แต่คุณไม่รู้ว่าคุณไม่ต้องเสียภาษีตรงนี้ ( คือคุณคิดว่าคุณคงต้องเสียภาษี 150 บาทไปตามปกติเหมือน นาย ก. และนาย ข. และทางผู้ขายคงทำหน้าที่แทนคุณไปแล้ว ( คือไปเสียภาษีแทนคุณ ) )


       เงิน 150 บาทตรงนี้ ก็เลย "เข้ากระเป๋า" คนขายไป / เพราะคนขายเขาไม่ต้องเอาเงิน 150 บาทตรงนี้มาจ่ายค่าภาษีแทนคุณ  เพราะกล่องพัสดุของคุณ บังเอิญไปเจอเจ้าหน้าที่ศุลกากรใจดีเข้า


* * * ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ 2 นี้ขึ้นมา   ก็นับว่า นี่คือ "ข้อเสีย" ของการซื้อสินค้าแบบที่มี Import Fees Deposit  หรือ Import Charges / ซึ่งข้อเสียที่ว่านั้นก็คือการที่ผู้ขายได้ "เงินกินเปล่า" เข้ากระเป๋าไป








 
( ภาพบน ) สินค้าในเวบอะเมซอน ที่ "ไม่มี" Import Fees Deposit

https://www.amazon.com/New-York-Yankees-Velcro-Adjustable/dp/B013MMD9QE/ref=pd_cart_vw_1_2?ie=UTF8&refRID=FS1ZCFS4BKNBS7VB5K70




 
( ภาพบนสินค้าในเวบอีเบย์ ที่ "ไม่มี" Import Charges

eBay item number : 320903904180

Lexus ES300 ES330 Toyota Camry Power Steering Return Hose Genuine 4440606100

http://www.ebay.com/itm/Lexus-ES300-ES330-Toyota-Camry-Power-Steering-Return-Hose-Genuine-4440606100-/320903904180?hash=item4ab75cfbb4:g:N10AAOSwKfVXH40V&vxp=mtr

 

       อย่างที่ทีมงานพูดไปตั้งแต่ตอนต้นๆของหน้าเวบนี้แล้วนะครับว่า ผู้ขายในอะเมซอน และอีเบย์นั้น มีทั้งที่ขายแบบมี Import Fees Deposit  และ Import Charges  และแบบไม่มี 

       ใน 2 ภาพข้างบนนี้ คุณผู้อ่านจะเห็นได้ว่า ก็เป็นสินค้าตัวเดียวกันกับที่ทีมงานยกตัวอย่างมาก่อนหน้านี้  เพียงแต่ว่าสินค้าใน 2 ภาพข้างบนนี้ ไม่มีการเรียกเก็บ Import Fees Deposit  และ Import Charges

       ซึ่งการที่ไม่มีการเรียกเก็บ Import Fees Deposit  และ Import Charges  มันก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย  โดยทีมงานขออธิบายด้วยการยกตัวอย่างเหตุการณ์ 2 เหตุการณ์ มาให้ดูใน ตารางสีฟ้า ข้างล่างนี้นะครับ




 

* * * สมมติว่าคุณซื้อสินค้าแบบที่ "ไม่มี"  Import Fees Deposit  หรือ Import Charges

       เมื่อสินค้าดังกล่าวมาถึงด่านศุลกากร  มันจะมีเหตุการณ์เกิดขึ้น 2 อย่าง ( อย่างใดอย่างหนึ่ง ) นั่นก็คือ


pinterest.com

เหตุการณ์ที่ 1 - บังเอิญว่าวันนั้น  เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ทำการตรวจสอบกล่องพัสดุที่ใส่สินค้าของคุณ  เป็นเจ้าหน้าที่ ที่ "ใจดี" / "อะลุ่มอล่วย" / คิดว่าไม่ควรคิดภาษีกับกล่องพัสดุของคุณ 

       ผลก็คือ คุณก็นอนรอรับพัสดุอยู่ที่บ้านได้เลย ,ไม่ต้องเสียภาษีด้วย ,และก็ไม่ต้องเดินทางไปไหนด้วย ( หมายถึงว่า ไม่ต้องเดินทางไปเสียภาษี )  นอนรอพัสดุที่บ้านได้เลย


* * * ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ 1 นี้  ก็นับว่า นี่คือ "ข้อดี" ของการซื้อสินค้าแบบที่ไม่มี Import Fees Deposit  หรือ Import Charges / ซึ่งก็คือการที่คุณ "ไม่ต้องเสียเงินกินเปล่าให้กับผู้ขาย"

       คราวนี้ ลองมาดูอีกเหตุการณ์หนึ่ง


theplaymania.com

เหตุการณ์ที่ 2 - บังเอิญว่าวันนั้น  เจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ทำการตรวจสอบกล่องพัสดุที่ใส่สินค้าของคุณ  ดันเป็นเจ้าหน้าที่ ที่ "เป๊ะๆ" / "เคร่งเครียด" / "ไม่อะลุ่มอล่วย" / "ตรงเป็นไม้บรรทัด" / "ยึดระเบียบศุลกากรทุกตัวอักษร"

       ผลที่เกิดขึ้นก็คือ เจ้าหน้าที่ศุลกากรคนนี้ ก็คิดภาษีคุณ 150 บาท

       ความลำบากก็จะเกิดขึ้นกับคุณแล้ว เพราะคุณก็ต้องเดินทางไปเสียภาษี ณ.สถานที่ ที่ทางเจ้าหน้าที่ศุลกากรกำหนดมา

       และคุณก็จะคิดในใจว่า "ยังไงก็ต้องเสีย 150 บาทเป็นค่าภาษีอยู่ดี รู้งี้ให้ทางคนขายเขาจ่ายแทนเราเสียดีกว่า เราจะได้ไม่ต้องเหนื่อยเดินทางไปเสียภาษีด้วยตัวเอง"



* * * ถ้าเกิดเหตุการณ์ที่ 2 นี้ขึ้นมา   ก็ถือว่านี่คือ "ข้อเสีย" ของการซื้อสินค้าแบบที่ไม่มี Import Fees Deposit  หรือ Import Charges / ซึ่งข้อเสียนี้ก็คือว่า ยังไงๆ คุณก็ต้องเสียภาษีอยู่ดี แต่คุณต้องลำบากในการเดินทางเพื่อไปเสียภาษีอีกด้วย  รู้อย่างนี้ ให้ทางคนขายเขาจัดการเสียภาษีให้ตั้งแต่แรกจะดีกว่า ( กว่าจะรู้ก็สายเกินไปเสียแล้ว... )






       ตามที่ทีมงานได้อธิบายมาตั้งแต่ต้น จะเห็นได้ว่า ทั้งการซื้อสินค้าแบบมี และแบบไม่มี Import Fees Deposit หรือ Import Charges นั้น ต่างก็มีข้อดีและข้อเสียในตัวเองทั้งนั้น  

       ดังนั้น ถ้าคุณผู้อ่านจะถามทีมงานว่า ควรจะเลือกแบบไหนดี? ทีมงานก็เลยตอบไม่ได้

       แต่พอจะสรุปแนวทางเลือกให้คุณ โดยให้คุณเอาเรื่องอุปนิสัยส่วนตัวของคุณมาช่วยพิจารณาด้วย ดังนี้นะครับ

คนพวกที่ 1 คือ คนที่เลือกซื้อสินค้ากับคนขายที่ มี Import Fees Deposit หรือ Import Charges
ควรมีอุปนิสัยดังนี้

       คิดว่าเป็นการยุ่งยาก น่ารำคาญ ที่จะต้องเดินทางไปเสียภาษีด้วยตัวเอง  ให้คนขายทำหน้าที่แทนไปเลยดีกว่า ( คือให้คนขายเป็นผู้ไปเสียภาษีแทน )


       คิดว่าจำนวนเงินที่ต้องเสียภาษีนั้น มันก็ไม่มากอะไร เอาเป็นว่า ถ้าคนขายเขาได้ "เงินกินเปล่า" ตรงนี้ไป ( ในกรณีที่ศุลกากรไม่คิดภาษี )  ก็ถือว่าเป็นโชคดีของคนขายเขาแล้วกัน ถือว่าทำบุญไป


       เราก็มีรายได้เดือนละหลายหมื่น จะต้องมาเสียเวลาเดินทางไปเสียภาษีทำไม  สู้เอาเวลาที่จะเดินทางไปเสียภาษีนั้น เอาไปทำมาหากิน เราก็จะได้เงินตั้งเยอะ มันคุ้มกว่าที่จะต้องไปเสียเวลาเดินทางไปเสียภาษีด้วยตัวเองเสียอีก 



คนพวกที่ 2 คือ คนที่เลือกซื้อสินค้ากับคนขายที่ ไม่มี Import Fees Deposit หรือ Import Charges ควรมีอุปนิสัยดังนี้

       คนขาย มันก็ได้กำไรจากสินค้าที่ขายเราอยู่แล้ว ยังจะมาเอา "เงินกินเปล่า" ตรงนี้อีก มันเอาเปรียบกันเกินไปแล้ว


       จำนวนเงินที่จะต้องเสียภาษีนั้น ก็ไม่ใช่น้อยๆ  ถ้าเราไม่ต้องเสียภาษีจริงๆ เรายังเอาเงินยอดนั้นไปทำประโยชน์อย่างอื่นได้หลายอย่าง เรื่องอะไรจะต้องให้ "เงินกินเปล่า" กับคนขายล่ะ


       ถ้าจะต้องโดนภาษีจริงๆ  การเดินทางไปเสียภาษีก็ไม่ใช่เรื่องยากเย็นอะไร เราเองก็มีรถขับ ,หรือจะใช้บริการรถเมลล์ ,แท๊กซี่ หรือวินมอเตอร์ไซค์ก็ได้  มันไม่ได้ลำบากขนาดที่ต้องนั่งเกวียน เดินทางเป็นวันๆ เหมือนเมื่อร้อยปีก่อนซะที่ไหน 



- - - - - - - - - - - - - - - - - - -

สรุปว่า  เมื่อคุณส่งลิงค์สินค้ามาให้ทีมงานคำนวณ แล้วทีมงานแจ้งให้คุณทราบว่า ในลิงค์สินค้าของคุณนั้น มันมีภาษี Import Fees Deposit หรือ Import Charges รวมอยู่ในค่าใช้จ่ายด้วยแล้วล่ะก็

* * * ถ้าคุณเป็น คนพวกที่ 1 - คุณก็ตอบกลับมาสั้นๆว่า "ให้ดำเนินการต่อ" ( ซึ่งก็แปลว่า คุณตั้งใจจะซื้อสินค้าชิ้นนี้ แม้ว่าจะมี Import Fees Deposit หรือ Import Charges ก็ตาม )


* * * ถ้าคุณเป็น คนพวกที่ 2 - คุณก็ไม่ต้องตอบเมลล์กลับมาก็ได้ครับ  แล้วก็ให้คุณไปหาลิงค์สินค้าอันใหม่ โดยเลือกเอาลิงค์สินค้าที่ไม่มีตัว Import Fees Deposit หรือ Import Charges / จากนั้น คุณก็ส่งลิงค์อันใหม่นั้น มาให้ทีมงานคำนวณค่าใช้จ่ายให้ 



- END -