อย่าเลือกการส่ง EMS ใน Aliexpress เด็ดขาด

ก่อนที่จะเขียนบทความในเวบหน้านี้ได้ ทีมงาน Tuvagroup.com ก็เก็บประสบการณ์เกือบ 10 ปีแล้วถึงได้มั่นใจจนกล้าเตือนคุณลูกค้าได้นะครับ  ไม่ใช่ว่าคิดอยากจะพูดอะไรก็พูดโดยด่วนสรุปเอานะครับ

การส่งแบบ EMS ที่มีตัวเลือกในเวบ Aliexpress นั้น เป็นการส่งโดยบริษัท China Postal Express & Logistics แบบที่เห็นในรูปข้างบนนี้นะครับ ซึ่งเราจะมาดูกันว่า ทำไมทีมงาน Tuvagroup.com ถึงยืนยันให้กับคุณลูกค้า "อย่า" ใช้บริการ การส่ง EMS ที่ Aliexpress เป็นอันขาดน่ะครับ        เกริ่นนำนิดนึงก่อนครับ คือว่า เวลาที่เรา ( ที่อยู่ในประเทศไทย ) จะส่งพัสดุไปให้เพื่อนที่อยู่ในประเทศไทยด้วยกันนั้น  ถ้าเป็นการส่งแบบธรรมดา ( ไม่ใช่แบบ EMS ) พัสดุนั้นกว่าจะถึงมือเพื่อน ก็กินเวลานานมาก มิหนำซ้ำยังเช็คสถานะ ( Tracking ) ไม่ได้ด้วยว่าพัสดุอยู่ที่ไหนแล้ว จะหายไปไหนหรือเปล่า / แต่พอเราเลือกการส่งเป็นแบบ EMS  พัสดุนั้นก็จะถึงมือเพื่อนของเราเร็วขึ้น และยังระหว่างที่รอการเดินทางของพัสดุ เราก็ยังเช็คสถานะได้ด้วยว่าตอนนี้ พัสดุของเรา เดินทางไปถึงส่วนไหนของประเทศไทยแล้ว        ด้วยเหตุนี้ เราก็เลยฝังใจว่า ถ้าเราเลือกการส่งแบบ EMS เมื่อไร พัสดุก็จะเดินทางถึงมือเร็วขึ้น และเช็คสถานะได้ พูดง่ายๆก็คือว่า เรามีความประทับใจกับวิธีการส่งแบบ EMS         คราวนี้ เมื่อถึงคราวที่เราจะสั่งซื้อสินค้าจากเวบต่างประเทศ คือเวบ Aliexpress เรามาดูกันว่า ความประทับใจกับการส่งแบบ EMS นั้น จะสามารถนำมาใช้กับการส่งสินค้าจาก Aliexpress ได้หรือไม่        เวลาที่เราเลือกซื้อสินค้าชิ้นใดชิ้นหนึ่งที่ Aliexpress.com มันจะมีตัวเลือกวิธีการส่งขึ้นมาให้เราเลือก ตามที่เห็นในรูปข้างล่างนี้

( ภาพบน ) จากช่องทางการส่งของข้างบนนี้ เขาเรียงลำดับตามราคาค่าส่งเอาไว้ โดยให้ค่าส่งที่ถูกที่สุดอยู่ด้านบนสุด แล้วก็ลดหลั่นกันลงมา คือเมื่อค่าส่งแพงขึ้น วิธีการส่งนั้นก็จะไล่ลงมาตามลำดับเหมือนที่เห็นในภาพข้างบนนี้ / สิ่งที่ทุกท่านจะคิดเหมือนๆกันก็คือว่า        ถ้าเลือกการส่งฟรี ( คือตัวเลือกที่อยู่บนสุด ) มันก็เขียนไว้อยู่แล้วว่าเป็นการส่งด้วย China Post Air Mail ซึ่งการส่งโดยบริษัทประเทศจีน มันชอบมีปัญหาของส่งผิดที่บ้าง ฯลฯ และที่สำคัญคือการส่งฟรี ย่อมเช็คสถานะสินค้าไม่ได้  ดังนั้น ส่วนมาก ลูกค้าก็มักจะไม่เลือกการส่งฟรีนี้อยู่แล้ว         ส่วนมาก คุณลูกค้ามักจะคิดว่าการเลือกการส่ง EMS น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดี เพราะราคาถูกกว่าการส่งด้วย FedEx ,DHL และ Ups / และการส่งแบบ EMS อาจจะไม่ใช่บริษัทของประเทศจีน ก็ได้ ( เพราะใครๆก็รู้ว่าการส่งพัสดุ ของประเทศจีน แย่เอามากๆ ไม่มีใครอยากใช้บริการหรอก ) / อีกทั้งคงจะสามารถเช็คสถานะสินค้าได้ ( คือเช็ค Track ได้ ) ยังไง เราก็ต้องได้รับการบริการที่ดีกว่าการส่งฟรีแหละน่า ( ลูกค้าส่วนใหญ่จะคิดอย่างนี้ ) / แต่ความจริง สิ่งที่คุณลูกค้ายังไม่รู้ก็คือว่า                การส่ง EMS ของเวบ Aliexpress ยังเป็นการส่งโดยบริษัทในประเทศจีนอยู่ดี ( ซึ่งสู้การส่งโดยบริษัท FedEx ,DHL และ Ups ไม่ได้เลย )                 ตัวเลือกการส่งแบบ EMS เป็นแค่ "ตัวหลอก" เฉยๆ คือเป็นการหลอกให้เรามีความหวังว่า ในเมื่อเรายอมจ่ายเพิ่มถึง 22.26 เหรียญ ( เพื่อเลือกการส่งแบบ EMS ) เราก็จะได้รับการบริการที่ดีกว่าการเลือกการส่งแบบส่งฟรี / คือหมายความว่า เรามีความหวังว่า สินค้าจะได้เร็ว ,สินค้าสามารถเช็คสถานะได้ ( เหตุที่เรามีความหวังอย่างนี้ ก็เพราะเรามีความฝังใจตอนที่ใช้บริการ EMS ตอนส่งพัสดุในประเทศไทยนั่นเอง ) ด้วยเหตุนี้ เราจึงหลงไปเลือก "ตัวหลอก" อันนี้ คือไปหลงเลือกการส่งแบบ EMS ของ Aliexpress / ซึ่งความจริง ไม่ใช่อย่างที่เราคิดเลย  และทีมงานจะได้อธิบายต่อไปว่าทำไมการส่งแบบ EMS ของ Aliexpress ถึงไม่ได้ดีอย่างที่เราคิด คือมันเป็นแค่ "ตัวหลอก" อันชาญฉลาดของคนขาย ที่มีไว้ให้เราติดกับดักเท่านั้นน่ะครับ         วิธีที่ทีมงาน Tuvagroup.com จะอธิบายให้คุณลูกค้าเข้าใจว่า เหตุใดการส่งแบบ EMS ของ Aliexpress จึงไม่ดีอย่างที่คุณคิดก็คือ ทีมงานจะยก "ตัวอย่างของจริง" เอามาให้ดูเลยครับ ขอเน้นนะครับ ว่าตัวอย่างที่เห็นทั้งหมดข้างล่างนี้ เป็นภาพจากของจริงที่ทีมงานสั่งซื้อให้คุณลูกค้านะครับ ไม่ใช่การสมมติขึ้นมา และไม่ได้เป็นการสร้างภาพขึ้นมามั่วๆเพื่อประกอบคำอธิบายหรอกนะครับ คือภาพที่ใช้ เป็นภาพของจริงทั้งหมดครับ / เอาล่ะ เรามาเริ่มกันเลยครับ

( ภาพบน ) ก่อนอื่น ทีมงานเอาภาพในหน้าจอคอมพิวเตอร์ตรงมุมขวาล่างของเครื่องมาให้ดูนะครับว่า ขณะที่ทีมงานกำลังทำหน้าเวบอยู่นี้ คือวันที่ 29 ธันวาคม 2557 ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพข้างบน ) / เดี๋ยวคุณลูกค้าก็จะได้รู้ว่าทำไมทีมงานถึงต้องให้คุณรู้เวลา ณ.ปัจจุบัน ( ขณะที่กำลังทำเวบหน้านี้อยู่ ) นะครับ อ่านต่อไปก่อนครับ

http://www.aliexpress.com/item/GTO17T-Car-TWEETER-CAR-WOOFER-dome-tweeter-motorbike-motor-vehicle-CN-Free/763929106.html

( ภาพบน ) ภาพข้างบนนี้ คือสินค้าตัวจริงที่ทีมงานสั่งซื้อให้กับคุณลูกค้านะครับ / ส่วนที่ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบนนั้น ที่บอกว่า "สินค้าชิ้นนี้ไม่มีจำหน่ายอีกต่อไปแล้ว" ก็เพราะว่าทีมงานได้ซื้อสินค้าชิ้นนี้ไปแล้วไงครับ ดังนั้น พอกลับมาดูที่หน้าเวบที่ขายสินค้าอีกครั้งหนึ่ง มันเลยบอกว่าไม่มีสินค้าตัวนี้แล้ว ( เพราะทีมงานได้ซื้อไปแล้ว ) / แต่ที่เอารูปข้างบนนี้มาให้ดู ก็เพื่อให้คุณลูกค้าเห็นว่าหน้าตาสินค้ามันเป็นยังไง ซึ่งหน้าตาสินค้าแบบข้างบนนี้ มันจะไปอยู่ในประวัติการสั่งซื้อสินค้าที่ทางเวบ Aliexpress บันทึกไว้ ( ซึ่งคุณลูกค้าจะเห็นเป็นภาพสีอันเล็กๆ อยู่ในสองรูปถัดไป ที่ด้านล่างนี้ครับ )

( ภาพบน ) ข้างบนนี้ คือหลักฐานการยืนยันว่าทีมงาน Tuvagroup.com ได้ทำการสั่งซื้อสินค้าชิ้นนี้ เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2557 ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบน ) เป็นยอดเงิน 38.11 เหรียญ ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพบน )

( ภาพบน ) ซึ่งยอดเงิน 38.11 เหรียญ นี้ ก็ไปตรงกับหลักฐานการโอนเงินไปให้ Aliexpress ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพบน ) / ที่เอารูปมาให้ดู ก็เพื่อยืนยันว่า ทีมงาน Tuvagroup.com ได้โอนเงินยอด 38.11 เหรียญ ไปให้คนขายที่ Aliexpress เมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2557 จริง        คราวนี้ เรามาดูส่วนประกอบอื่นๆกัน ดังที่เห็นในภาพข้างล่างนี้

ข้างบนนี้ คือภาพคร่าวๆ เดี๋ยวเรามาดูรายละเอียดกันครับ

( ภาพบน ) จากรายละเอียดในภาพข้างบนนี้ ( ซึ่งเป็นรายละเอียดที่ถูกบันทึกไว้บนเวบ Aliexpress ในหมวดของประวัติการสั่งซื้อ )  จะเห็นได้ว่าการสั่งซื้อสินค้าครั้งนี้ เป็นการเลือกการส่งแบบ EMS ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบน ) และมีค่าใช้จ่ายเฉพาะการส่งสูงถึง 17.69 เหรียญ ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพบน ) / ไม่ใช่การส่งฟรีแต่อย่างใด / จากนั้น เราก็มาดูรายละเอียดส่วนอื่นๆต่อไป

( ภาพบน ) จะเห็นได้ว่า เพราะเป็นการเลือกการส่งแบบ EMS เราจึงได้เลข Tracking number มา ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบน ) ซึ่งเราจะเอาไปเช็คกับเวบที่รับตรวจเลข Tracking number  / โดยวิธีเช็คคือ "คลิ๊ก" เข้าไปตรงลิงค์ของ Aliexpress ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพบน )

( ภาพบน )  ลิงค์สำหรับเช็คเลข Tracking สำหรับการส่งแบบ EMS ก็จะกระเด้งขึ้นมา ( ซึ่ง Url ของมันก็คือ http://www.ems.com.cn/english.html  )

( ภาพบน )  กรอกเลข Tracking number ที่เราได้มาจาก Aliexpress ลงไป ( ตรงกรอบสี่เหลี่ยมสีขาว บริเวณที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบน )

( ภาพบน )  จากนั้น มันจะมีตัวเลขโผล่ออกมา ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพบน )  เพื่อให้เราพิมพ์ตาม

( ภาพบน )  เราก็พิมพ์ 421338 ตามลงไป ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพบน )

( ภาพบน ) จากนั้น เราก็คลิ๊กไปที่คำว่า Track ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพบน )  เพื่อจะเช็คสถานะสินค้าว่าตอนนี้ สินค้าชิ้นนี้ไปอยู่ไหนแล้ว เพราะเวลาผ่านไป 18 วันแล้ว ( คือโอนเงินไปวันที่ 11 ธ.ค.57 และมาเช็คเลข Track ในวันที่กำลังทำเวบหน้านี้ ซึ่งก็คือวันที่ 29 ธ.ค.57 )

( ภาพบน ) ระบบมันพาเรามาที่หน้าเวบข้างบนนี้

( ภาพบน ) มันบอกว่าเช็คสถานะไม่ได้ ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบน )

( ภาพบน ) มันมีตัวเลขอีกชุดหนึ่ง อยู่ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพบน / ก็ลองเอามากรอกตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพบน / จากนั้น ก็คลิ๊กตรงที่ Submit ตรงที่ ลูกศรสีม่วง ชี้อยู่ในภาพบน

( ภาพบน ) ปรากฏว่า มันก็ขึ้นข้อความเหมือนเดิมคือ มันบอกว่าเช็คสถานะไม่ได้ ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพข้างบน )

( ภาพบน ) จากวันที่โอนเงินไปให้ คือวันที่ 11 ธ.ค.57 จนกระทั่งถึงวันที่ทำเวบหน้านี้ คือวันที่ 29 ธ.ค.57 เวลาก็ผ่านไปถึง 18 วันแล้ว แต่เรายังไม่สามารถเช็คสถานะสินค้าได้เลย  คือมันมีตัวเลข Tracking number หลอกๆมาให้เราดีใจ แต่พอเอาไปเช็คจริงๆแล้ว ก็เช็คไม่ได้        พูดง่ายๆก็คือว่า ถ้าเราเลือกการส่งฟรี มันเช็คสถานะไม่ได้ แล้วพอเราเลือกการส่งแบบ EMS มันก็เช็คสถานะไม่ได้เหมือนกัน ดังนั้น เราจะมาเสียเงินตั้ง 17.69 เหรียญ ( เพื่อเป็นการส่งแบบ EMS ) ทำไมล่ะครับ? ก็เลือกการส่งฟรี เสียตั้งแต่แรกเลยไม่ดีกว่าหรือ? ( อันนี้พูดแบบประชดนะครับ - คือการส่งของจีนมันสุดห่วยจริงๆ )        ทีมงานไม่ได้มีอคติอะไรกับการขนส่งของจีนนะครับ แต่ทีมงานพูดไปตามประสบการณ์ เพราะสั่งซื้อสินค้าให้ลูกค้ามาจะสิบปีแล้ว ก็เป็นอย่างนี้ทุกครั้ง จนมั่นใจแล้วถึงได้พูดว่าการขนส่ง EMS ของจีนมันแย่จริงๆ        แล้วควรจะปฏิบัติตัวอย่างไร? คำตอบที่ทีมงานแนะนำมีสองทางเลือกนะครับ คือ        ตัดใจเลือกส่งแบบ Free Shipping ไปเลย เพราะไหนๆ ถ้าเลือกการส่งแบบ EMS มันก็เช็คสถานะสินค้าไม่ได้ เหมือนๆกับการส่งฟรี ( ซึ่งก็เช็คสถานะไม่ได้เช่นกัน ) ดังนั้น ก็ "ไม่ควร" ต้องเสียเงินไปเปล่าๆถึง 17 เหรียญกว่าๆเพื่อเลือก EMS        แต่ถ้าคุณลูกค้าไม่อยากเลือกการส่งแบบ Free Shipping เพราะอยากจะเช็คสถานะสินค้าได้ คุณลูกค้าก็ควรเพิ่มงบอีกหน่อย แล้วไปเลือกการส่งแบบ FedEx ,DHL หรือ Ups ไปเลย ( เพราะเท่าที่ทำมา FedEx ,DHL และ Ups ไม่ค่อยมีปัญหาครับ ) แถมท้าย - มีอีกตัวอย่างหนึ่ง ที่แสดงให้เห็นถึงปัญหาที่เกิดจากการส่งสินค้าแบบ EMS ลองคลิ๊กไปอ่านดูที่ลิงค์นี้นะครับ  http://www.tuvagroup.com/ercs-001001G-571229-0420.html

- END -