- หน้า 2 -


       ในหน้าแรก เราได้พูดถึงสาเหตุที่ทางผู้ขายกำหนดการส่งเป็นแบบ ebay global shipping program ไปแล้วนะครับ / ในหน้านี้ ก็จะเป็นส่วนที่ 2 ซึ่งเราจะพูดถึง วิธีตามของเมื่อของหาย และอธิบายว่าทำไม การส่งแบบ ebay global shipping program ถึงทำให้ของหาย?  มาเริ่มกันเลยครับ

       สมมติว่าเราชนะการประมูลแล้ว โดยเราชนะการประมูลที่ 19.99 เหรียญ และทางระบบของ ebay global shipping program ตีค่าส่งเป็น 18 เหรียญ  ดังนั้น ทางอีเบย์ก็จะส่งอินวอยซ์ ( ใบเรียกเก็บเงิน ) มาให้เรา มีหน้าตาเหมือนในเมลล์ข้างล่างนี้




( ภาพบน ) หลังจากเราได้อินวอยซ์แล้ว เราก็คลิ๊กที่ปุ่ม Pay Now
ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้



( ภาพบน ) จากนั้น ก็กรอกชื่อและที่อยู่ของ Webmaster ( คือเราจะให้ส่งมาที่บ้าน Webmaster )
แล้วก็คลิ๊กปุ่ม Ship to this address ตรงที่
ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้




( ภาพบน ) รายละเอียดของชื่อและที่อยู่สำหรับรับของ ที่เรากรอกไว้ก่อนหน้านี้
ก็จะมาปรากฏตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้




( ภาพบน ) จากนั้น เราก็คลิ๊กที่ปุ่ม Continue ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้
เพื่อดำเนินการสั่งซื้อต่อไป

       ( ภาพบน ) หลังจากที่ทีมงาน คลิ๊กที่ปุ่ม Continue ในภาพข้างบนนี้แล้ว ก็เป็นขั้นตอนการชำระเงินทั่วไป ซึ่งทีมงานก็ขอข้ามไปเลยนะครับ เอาเป็นว่าตอนนี้ เราชำระเงินให้คนขายเรียบร้อยแล้ว โดยเป็นค่าสินค้าที่เราชนะประมูลคือ 19.99 เหรียญ และค่าส่ง ที่ทาง ebay ตีราคามาให้เราแล้วว่าเป็น 18 เหรียญ ( โดยใช้ ebay global shipping program ) รวมเป็นเงินทั้งหมด 37.99 เหรียญ 

       หลังจากเราโอนเงินไปให้คนขายแล้ว  เราก็รอรับสินค้าต่อไป




       ( ภาพบน ) แต่ปรากฏว่า เวลาผ่านไป 1 เดือนหลังจากที่เราโอนเงินไปให้คนขายแล้ว ปรากฏว่าเราก็ยังไม่ได้รับสินค้าเสียที อีกทั้ง เราก็ไม่ได้รับการติดต่อจากคนขาย หรือจากไปรษณีย์ เลยว่าสินค้ามีปัญหาในการส่งหรือไม่ อย่างไร?  ซึ่งลักษณะแบบนี้แหละครับ ที่เรียกว่า "ของหาย" ( คือยังไม่ได้รับของ และไม่ได้รับการติดต่อใดๆจากทั้งผู้ขาย และผู้ส่ง ( คือเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ ) เลย )

       ดังนั้น เราก็ต้องติดตามหาสินค้าที่เราสั่งไป เพื่อจะได้รู้ว่าตอนนี้สินค้าไปติดอยู่ที่ไหน เมื่อทราบแล้ว ก็จะได้ไปรับพัสดุกลับมา

       สถานที่ติดตามพัสดุของเรา ก็จะมีอยู่สองที่ครับ ก็คือ ที่ไปรษณีย์ใกล้บ้านเราที่สุดที่นึง  และอีกที่ก็คือ ไปรษณีย์ "หลัก" ที่อยู่ใกล้บ้านเราที่สุด อีกที่นึง  อธิบายได้ดังนี้ครับ




( ภาพบน ) ไปรษณีย์ใกล้บ้านที่สุด

( ภาพจาก map.longdo.com )

       ( ภาพบนไปรษณีย์ที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด นั้น เป็นสถานที่ที่เรามักไปส่งจดหมาย ไปส่งพัสดุบ่อยๆ คือคุ้นหน้าคุ้นตากับเจ้าหน้าที่บ้างแล้ว  และที่ทำการไปรษณีย์นั้น ลูกค้าก็ไม่เยอะ

       ด้วยคุณสมบัติของไปรษณีย์ใกล้บ้านนี้ ( คือคุณสมบัติเรื่องคุ้นหน้าคุ้นตาเจ้าหน้าที่ และเรื่องลูกค้าไม่เยอะ ) ทำให้เราสามารถ "โทรศัพท์" ไปถามพนักงานไปรษณีย์ ( หรือเดินทางไปถามด้วยตัวเองเลยก็ได้ ) เกี่ยวกับเรื่องสินค้าต่างประเทศที่ส่งมาหาเรา / ถ้าเจ้าหน้าที่บอกว่าหาไม่เจอ เราก็ถามต่อว่า "ช่วยแนะนำ" หน่อยได้ไหมว่า ต้องทำยังไงต่อ ,ไปตามที่ไหนได้อีก ฯลฯ / ซึ่งส่วนมาก พนักงานไปรษณีย์ที่นี่ ก็เต็มใจจะค้นหาของให้เรา และเต็มใจที่จะตอบคำถามต่างๆให้กับเรา เพราะเจ้าหน้าที่เขาคุ้นหน้าคุ้นตาเรา และลูกค้าก็ไม่เยอะ ( ไม่ประสาทกิน ว่างั้นเถอะ ) ก็เลยมีเวลาดูแลเราได้



( ภาพบน ) ไปรษณีย์ "หลัก" ที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด

( ภาพจาก panoramio.com )

       ( ภาพบนไปรษณีย์ "หลัก" ที่อยู่ใกล้บ้านที่สุด - จะเป็นที่ทำการไปรษณีย์ขนาดใหญ่  ที่ใช้รับพัสดุจากที่อื่นก่อน แล้วค่อยส่งพัสดุต่อไปให้ที่ทำการไปรษณีย์ย่อยๆ ( เช่นไปรษณีย์ใกล้บ้านของคุณ ) อีกทีหนึ่ง



 

       ( ภาพบน )  ถ้าเป็นแถวๆบ้านของ Webmaster  ไปรษณีย์ "หลัก" ก็คือที่ทำการไปรษณีย์อ่อนนุช

       เวลามีพัสดุมาจากต่างประเทศมาหา Webmaster  พัสดุต่างประเทศเหล่านั้น จะต้องมาพักที่ไปรษณีย์ "หลัก" คือที่ไปรษณีย์อ่อนนุช ก่อน

       จากนั้น ทางไปรษณีย์อ่อนนุช ก็จะแจกจ่ายไปให้ที่ทำการไปรษณีย์ย่อยในพื้นที่รับผิดชอบของตัวเองอีกทีหนึ่ง ( ไปรษณีย์ย่อยที่อยู่ในความรับผิดชอบของไปรษณีย์อ่อนนุช ก็ได้แก่ ไปรษณีย์ห้างซีคอนสแควร์ ,ไปรษณีย์ห้างเซ็นทรัลบางนา ,ไปรษณีย์ห้าง 555 ฯลฯ ) เพื่อให้ทางไปรษณีย์ย่อย นำพัสดุต่างประเทศมาส่งให้ Webmaster อีกทีหนึ่ง ( ไปรษณีย์ย่อยที่อยู่ใกล้กับบ้าน Webmaster ที่สุดคือ ไปรษณีย์ห้างซีคอนสแควร์ )

       แต่ถ้ารายละเอียดของชื่อที่อยู่บนกล่องพัสดุไม่ชัดเจน  กล่องพัสดุนั้น ก็จะถูกเก็บอยู่ที่ไปรษณีย์อ่อนนุช ซึ่งเป็นไปรษณีย์ "หลัก"  เพื่อรอส่งกลับไปต่างประเทศต่อไป

       ส่วนที่คุณผู้อ่าน อาจสงสัยก็คือว่า ในเมื่อรู้แล้วว่ากล่องพัสดุจากต่างประเทศ จะอยู่ที่นี่ ( คืออยู่ที่ไปรษณีย์หลัก )
แล้วทำไมถึงแนะนำให้ไปติดต่อที่ไปรษณีย์ใกล้บ้านที่สุดก่อน  ทำไมไม่ให้ติดต่อตรงกับที่ไปรษณีย์ "หลัก" นี้เลย

       คำตอบก็คือว่า จากประสบการณ์การติดต่อกับไปรษณีย์มาหลายปี พบว่าที่ ไปรษณีย์ "หลัก" แต่ละที่นั้น เจ้าหน้าที่มีงานเยอะ ลูกค้าเยอะ  และด้วยความที่มีงานเยอะนี่เอง เวลาเราถามอะไรมากๆ "เจ้าหน้าที่ก็จะหงุดหงิด และมีอารมณ์" / ที่สำคัญที่สุดคือ พอให้หาของ เขาก็จะบอกว่าหาไม่เจอ  แต่พอไปตามเรื่องสองสามครั้ง ในที่สุดก็เจอพัสดุจนได้ ( ซึ่งนั่นก็แปลว่า พัสดุมันอยู่ที่ไปรษณีย์ "หลัก" ตั้งแต่วันแรกที่เราโทรถามแล้ว แต่เจ้าหน้าที่หาไม่ดีเอง ( ขี้เกียจหา ) ก็เลยหาไม่เจอ  แล้วพอเราไปจี้หลายๆครั้ง ก็เลยหาเจอจนได้ )

       ดังนั้น การที่เราติดต่อคุยกันกับไปรษณีย์ใกล้บ้านเราที่สุดก่อนนั้น  เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ที่ใกล้บ้านเราที่สุดนี้ ก็อาจมีเวลาแนะนำเราว่าต้องไปตามพัสดุได้ที่ไหน ,อาจบอกเราว่า ถ้าไปที่ไปรษณีย์ "หลัก" ให้ตรงไปติดต่อที่แผนกไหน ,อาจบอกเราว่ามีเบอร์โทรตรงไปที่แผนกรับพัสดุจากต่างประเทศที่ไปรษณีย์ "หลัก" ด้วย ฯลฯ  ( พูดง่ายๆคือ เจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ใกล้บ้านที่สุด มักจะมีมนุษย์สัมพันธ์ดีกว่าที่ไปรษณีย์ "หลัก" )

       อีกประการหนึ่งก็คือว่า บางครั้ง ไปรษณีย์ "หลัก" ก็อาจส่งพัสดุต่างประเทศของเรานั้น มาเก็บไว้ที่ ไปรษณีย์ใกล้บ้านที่สุด แล้วก็ได้ เพื่อรอให้ทางไปรษณีย์ใกล้บ้านที่สุดของเรา นำพัสดุนั้น ไปส่งให้เรา

       ดังนั้น การที่เราไปติดต่อ หรือเราโทรถามไปรษณีย์ที่ใกล้บ้านที่สุด ก่อนการติดต่อไปรษณีย์ "หลัก" จึงเป็นสิ่งที่ทีมงานแนะนำให้คุณผู้อ่านทำเป็นอันดับแรกเลยครับ  เพราะคุณอาจจะได้รับของเลย / หรือไม่ ถ้ายังไม่ได้รับของ  ทางไปราณีย์ที่ใกล้บ้านที่สุดนี้ ก็จะมีคำแนะนำดีๆให้คุณในการไปตามพัสดุที่ไปรษณีย์ "หลัก"

       แนะนำให้อ่านประสบการณ์การหาพัสดุ ได้ที่ลิงค์นี้ครับ  http://www.tuvagroup.com/ercs-001001O-580604-0826.html 

       เอาล่ะครับ ตอนนี้ ย้อนกลับมาที่เรื่องของเรากันต่อ



( ภาพบน ) ในที่สุด ก็ได้รับพัสดุแล้ว!




       ( ภาพบน ) ทีมงาน ก็ใช้วิธีตามของแบบที่อธิบายมาข้างบน  จนในที่สุดก็พบถุงพัสดุของ Webmaster แล้ว

       ซึ่งเมื่อดูที่ถุงพัสดุใกล้ๆแล้ว ก็เห็นว่า พัสดุถุงนี้ ถูกส่งด้วยระบบ ebay global shipping program ตรงกับที่เราสั่งไป ( คือมีเครื่องหมายของ ebay global shipping program แปะอยู่ที่ถุง เหมือนที่เห็นในรูปข้างบนนี้ )

       จากนั้น เราก็พลิกถุง เพื่อดูอีกด้านหนึ่ง ซึ่งเป็นดังภาพข้างล่างนี้



( ภาพบน ) พลิกถุงกลับมาอีกด้านหนึ่ง



 
( ภาพบน ) ลองดูที่ฉลากใกล้ๆ 



 
( ภาพบน ) เจอสาเหตุที่ทำให้ไปรษณีย์มาส่งที่บ้านไม่ได้แล้วล่ะ! 



 
( ภาพบน ) นี่ไง สาเหตุ!

( อยู่ใน สี่เหลี่ยมเส้นประสีแดง ที่ล้อมรอบอยู่ ในภาพข้างบนนี้ )




( ภาพบน ) คุณผู้อ่าน ลองย้อนกลับไปดูตอนที่เรากรอกที่อยู่ให้อีเบย์นะครับ  




 
( ภาพบน ) ดูข้อมูลที่ทีมงานกรอกที่อยู่สำหรับรับสินค้า ให้กับทางอีเบย์

( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ ) 



 
( ภาพบน ) แล้วเอามาเทียบกับข้อมูลที่อยู่ ที่ทาง ebay global shipping program พิมพ์มา

ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ 



 

       ( ภาพบน ) ข้างบนนี้ คือข้อมูลที่อยู่ภาษาอังกฤษ ที่ทางทีมงานให้กับอีเบย์ไว้ ซึ่งมีพยัญชนะทั้งหมด 63 ตัว 



 

       ( ภาพบน ) แต่ปรากฏว่า ทาง ebay global shipping program อนุญาตให้ใช้พยัญชนะได้แค่ "33 ตัว

       ดังนั้น เมื่อทาง ebay global shipping program พิมพ์ที่อยู่มาบนฉลากที่แปะกับถุงพัสดุ มันก็เลยพิมพ์แค่ตัวหนังสือสีดำ ( ที่เห็นในภาพข้างบนนี้ ) ซึ่งมีแค่ 33 ตัว / ส่วนตัวหนังสือสีแดง ( ที่เห็นในภาพข้างบนนี้ ) คือส่วนของข้อมูลที่หายไป ( ตัวหนังสือสีแดง คือพยัญชนะที่ไม่ได้พิมพ์ลงไปบนฉลากที่แปะถุงพัสดุ )

       นั่นก็หมายความว่า จากพยัญชนะตัวเต็ม 63 ตัว ซึ่งแปลเป็นไทยได้ว่า "บ้านเลขที่ 30 หมู่บ้านเคหะนคร 1 ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 แขวงหนองบอน  เขตประเวศ"

       ปรากฏว่าที่ฉลากพิมพ์พยัญชนะได้แค่ 33 ตัว ก็เลยเหลือแค่ "บ้านเลขที่ 30 หมู่บ้านเคหนะคร 1 ซอย 22"  ส่วนคำว่า แยก 14 และคำว่าถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 ไม่สามารถสื่อความหมายได้ เพราะพิมพ์มาแค่ YA และ CHA ตามลำดับ
/ ชื่อถนนหาย ,แยกหาย ,แขวงหาย ,เขตหาย / อย่างนี้ พนักงานไปรษณีย์ที่ไหนก็ไม่สามารถส่งของให้เราได้แล้วล่ะครับ




 

       ( ภาพบน ) ดังนั้น เมื่อไปรษณีย์ "หลัก" ได้รับถุงพัสดุ ที่มีข้อมูลที่อยู่เพียงเท่าที่เห็นตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยุ่ในภาพข้างบนนี้ ( คือมีพยัญชนะแค่ 33 ตัว )  เขาก็เลย มีข้อมูลไม่พอที่จะส่งสินค้ามาให้ลูกค้าได้

       คือมันมีแต่เลขที่บ้าน ,กับชื่อหมู่บ้าน ,ชื่อแยกอะไรก็ไม่บอก ( คือ มันเป็นซอยที่ 22 แต่ว่ามันมี 18 แยก ดังนั้น การที่ไม่บอกว่าแยกที่เท่าไร มันจึงเป็นเรื่องที่ยากมากที่จะส่งของได้ ) ,แล้วคำว่า "CHA" คืออะไรหว่า ( จริงๆแล้วมันเป็นชื่อถนนว่า ถนนเฉลิมพระเกียรติ ร.9 หรือภาษาอังกฤษก็คือ CHALERMPAKIAT R.9 ) ,ข้อมูลเรื่องแขวง และเขต ก็ไม่มีสักอย่าง - ด้วยเหตุนี้ ไปรษณีย์ก็จนปัญญาที่จะส่งของให้เราได้ แล้วก็เลยเก็บของไว้ที่ ไปรษณีย์ "หลัก" เพื่อรอส่งของกลับไปอเมริกาเหมือนเดิม 

       คุณผู้อ่านอาจมีข้อสงสัยว่า แล้วทำไมทางทีมงานถึงรู้ว่าถุงพัสดุนี้ จะมาอยู่ที่ ไปรษณีย์ "หลัก" ใกล้บ้านได้ล่ะ ( ถึงได้แนะนำให้ไปติดต่อที่ไปรษณีย์ "หลัก" ใกล้บ้าน ) ? ทั้งๆที่ข้อมูลที่อยู่มันไม่ชัดเจนขนาดนี้ / คำตอบเป็นดังภาพข้างล่างนี้ครับ



 

       ( ภาพบน ) ก็คือว่า แม้ว่าข้อมูลอื่นๆเกี่ยวกับที่อยู่จะไม่ชัดเจน แต่ว่าข้อมูลเรื่อง "รหัสไปรษณีย์" จะชัดเจนทุกครั้ง ( วัฒนธรรมของอเมริกา เขาจะเน้นความชัดเจนของรหัสไปรษณีย์ คือต้องกรอกรหัสไปรษณีย์ให้ชัดเจน

       และเมื่อรหัสไปรษณีย์มีความชัดเจนอย่างนี้ ก็เลยทำให้พัสดุนี้ ถูกส่งมาเก็บไว้ที่ "ที่ทำการไปรษณีย์อ่อนนุช" ซึ่งเป็นที่ทำการของ ไปรษณีย์ "หลัก" ในบริเวณบ้านพักของ Webmaster นั่นเอง / โดยดูจากรหัสไปรษณีย์ว่าเป็น 10250 ( เหมือนที่ ลูกศรสีแดง ชี้อยู่ในภาพข้างบน ) ก็แสดงว่าผู้รับ ( ซึ่งใช้รหัสไปรษณีย์ 10250 ) ต้องอยู่ในพื้นที่ความรับผิดชอบของไปรษณีย์อ่อนนุช แน่ๆ / ดังนั้น ทางเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ จึงตัองเอาห่อพัสดุมาเก็บไว้ที่ไปรษณีย์อ่อนนุช ก่อน

       ด้วยเหตุผลข้างบนนี้ ( คือไปรษณีย์อ่อนนุช ดูที่รหัสไปรษณีย์ 10250 ถึงรู้ว่าบ้านผู้รับ ( คือ Webmaster ) ต้องอยู่ในพื้นที่รับผิดชอบของไปรษณีย์อ่อนนุช แน่ๆ ) ดังนั้น ทาง Webmaster จึงสามารถไปติดตามหาพัสดุจนเจอได้ที่ "ที่ทำการไปรษณีย์อ่อนนุช" ก็ด้วยรหัสไปรษณีย์นี้นั่นเองครับ


       จากที่ทีมงานอธิบายมาทั้งหมดนี้ สามารถสรุปเป็นเหตุการณ์ได้ดังนี้นะครับ




( ภาพบน ) เหตุการณ์ที่ 1 - เพราะสินค้าไม่ส่งไทย!
เราจึงต้องเมลล์ไปถามทางผู้ขาย 




 
( ภาพบน ) เหตุการณ์ที่ 2 - คนขายยอมส่งไทย
แต่มีเงื่อนไขว่า เขาจะส่งแบบ ebay global shipping program
 



 
       ( ภาพบนเหตุการณ์ที่ 3 - เราต้องตัดสินใจเองว่าจะยอมรับการส่งแบบ ebay global shipping program หรือไม่? ถ้าเรายอมรับ! เราก็ต้อง "รับสภาพ" สำหรับผลที่ตามมาสำหรับการส่งแบบ ebay global shipping program 





 

 

       ( ภาพบนคำว่า "รับสภาพ" ( คือรับสภาพจากการที่เราตกลงให้คนขายส่งแบบ ebay global shipping program ) นั้นก็คือ ทางอีเบย์เขาจะกรอกข้อมูลที่อยู่ให้เราได้แค่ "33 ตัวอักษร" เท่านั้น





       ( ภาพบนซึ่งการที่ใส่รายละเอียดที่อยู่เพียง 33 ตัวอักษร ก็เลยทำให้เราจะต้องไปตามเอาสินค้าที่ไปรษณีย์ "หลัก" ใกล้บ้านเรา  ในภายหลังเอาเอง ( คือหลังจากครบ 1 เดือนนับจากวันโอนเงินให้คนขาย ) เพราะว่าทางเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ไม่สามารถนำพัสดุมาส่งให้เราที่บ้านได้ เพราะข้อมูลที่อยู่บนฉลากพัสดุ มีไม่เพียงพอ ( คือมีแค่ 33 ตัวอักษรเท่านั้น )   





       ( ภาพบน ) ถึงแม้การส่งแบบ ebay global shipping program จะทำให้คุณต้องเหนื่อยไปตามสินค้าเองที่ไปรษณีย์หลัก ในภายหลังก็ตาม  "แต่" ข้อดีของมันก็คือว่า ถ้าคุณใช้การส่งแบบ ebay global shipping program แล้วล่ะก็  ทางผู้ขายจะไม่สามารถบวกค่าส่งเพิ่มจากคุณ ( เหมือนที่คุณเห็นในภาพข้างบนนี้ ซึ่งเป็นผลมาจากการที่คนขายขาดทุนจากการที่คุณประมูลได้ในราคาต่ำเกินไป )





 

       ( ภาพบน ) ดังนั้น คุณผู้อ่านต้องเป็นคนตัดสินใจเอาเองนะครับว่า ถ้าคนขาย เขากำหนดมาว่าเขาจะส่งด้วยการส่งแบบ ebay global shipping program แล้วล่ะก็  คุณจะตกลงตามที่คนขายกำหนดมาหรือเปล่าน่ะครับ / แต่ถ้าถามทีมงานแล้วล่ะก็ ทีมงานแนะนำว่าให้ใช้ ebay global shipping program ดีกว่าครับ  คือถ้ามันเป็นสินค้าที่คุณอยากได้จริงๆแล้วล่ะก็ ต่อให้ต้องลำบากไปตามของเองในภายหลัง ( คือไปตามที่ไปรษณีย์หลัก ) นั่นก็ไม่ใช่ปัญหาครับ!  / เอาเป็นว่า ถ้าคุณใช้บริการฝากซื้อสินค้ากับทีมงาน Tuvagroup.com แล้วล่ะก็  ถ้าคุณไม่ได้รับสินค้าภายใน 1 เดือน ก็ให้เมลล์มาคุยกับทางทีมงาน Tuvagroup.com ได้เลยครับ แล้วเดี๋ยวเรามาหาช่องทางแก้ปัญหากันครับผม


- END -

1  <  2