( ภาพบน ) ปัญหาก็เกิดตรงนี้แหละครับ คือ (ศรเขียวชี้) คือชื่อคนจ่ายเงิน ( Billing Address ) กับชื่อคนรับของ ( Shipping Address ) ดันเป็นคนเดียวกัน ( ศรแดงชี้ ) แต่ที่อยู่ คนหนึ่งอยู่กรุงเทพ คนหนึ่งอยู่เชียงใหม่ คุณอาจคิดว่าไม่ใช่ปัญหา แต่... ( อ่านข้างล่างนี้ก่อนนะครับ )

 

ปัญหาแบบที่ 1 - คุณอาจคิดว่า ไม่เห็นเป็นไรเลย ชื่อผู้รับของไม่ตรง ใครก็รับแทนได้ เหมือนกับเวลาเราไม่อยู่บ้าน แล้วไปรษณีย์มาส่งของที่บ้าน  พอดีน้องชายเรา หรือเพื่อนเราอยู่บ้าน ก็ยังเห็นรับแทนได้ตามปกติ ตอบ - ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ ไม่เหมือนกันครับ เพราะนี่เป็นการซื้อของจากต่างประเทศ  บางที คนที่มีชื่อที่ระบุไว้บนกล่องไปรษณีย์ จะต้องเดินทางไปติดต่อรับของด้วยตัวเอง   โอเคว่า ถ้าบังเอิญไม่ต้องเสียภาษี ทางไปรษณีย์เขาก็จะมาส่งที่บ้านเลย  อันนั้นคือใครที่อยู่ที่บ้านก็รับได้   แต่ว่าในกรณีที่ต้องเดินทางไปไปรษณีย์เพื่อรับของด้วยเอง ( เช่นต้องเสียภาษีนิดๆหน่อยๆ )   ผลที่ตามมาก็คือ คุณวิษณุ Webmaster  ต้องเดินทางจากจังหวัดกรุงเทพ ไปที่จังหวัดเชียงใหม่ เพื่อรับของแทนคุณศรรามนั่นเอง  ( เพราะในธุรกรรมทั้งหมดนี้ ไม่มีชื่อ "คุณศรราม" อยู่ในเอกสารใดๆบนกล่องเลย ) ปัญหาแบบที่ 2 - ถ้างั้น เปลี่ยนเฉพาะทั้งชื่อ ( ตรงที่ลูกศรสีเขียวชี้ในภาพข้างบน ) ให้เป็น "คุณศรราม" เหมือนกันไปเลยสิ พอของมาที่เชียงใหม่ จะได้ให้ "คุณศรราม" ไปติดต่อ ณ.ที่ทำการไปรษณีย์ด้วยตัวเองเลย ตอบ - ก็ต้องย้อนกลับไปข้างบนสุดของหน้านี้ว่า ชื่อคนจ่ายกับชื่อบนบัตรเครดิตต้องเป็นคนเดียวกัน ( เพราะถ้าไม่กำหนดอย่างนี้ ถ้ามีคนหนึ่ง ขโมยบัตรเครดิตของอีกคนหนึ่งไปซื้อของ ก็ต้องทำได้สิครับ ยกตัวอย่างเช่นคุณศรราม ไปขโมยบัตรเครดิตคุณวิษณุมากรอกเพื่อซื้อของ แล้วส่งให้ตัวเองที่เชียงใหม่ )  ตอนนี้ เข้าใจปัญหาแล้วล่ะ แล้วต้องแก้ไขอย่างไร? มีสองวิธีครับ คือ        แบบที่ 1 - เปลี่ยนใจ ลองไปหาซื้อของแบบเดียวกันนี้ที่เวบอื่น  หรือ ....        แบบที่ 2 - ซื้อของกับเวบนี้แหละ แต่แก้ไขโดย ให้ส่งสินค้ามาที่บ้านของ Webmaster ก่อน เพื่อให้ชื่อและที่อยู่ของผู้จ่ายเงิน กับชื่อและที่อยู่ของผู้รับของ ตรงกันทั้งหมด จะได้ไม่มีปัญหา  แล้วคุณค่อย "ใช้บริการไปรษณีย์ไทย" โดยเสียค่าส่งไปรษณีย์จากกรุงเทพ ( บ้าน Webmaster ) ไปจังหวัดเชียงใหม่ ( บ้านคุณศรราม ) อีกต่อหนึ่ง  ซึ่งก็จะต้องขอเบิกเงินสำหรับการ "เผื่อค่าส่ง" ด้วยนะครับ ( เรื่องเกี่ยวกับ "เผื่อค่าส่ง" นี้ อธิบายไว้ที่ลิงค์ http://www.tuvagroup.com/rpghelp.html ) สรุป - ลองตัดสินใจดูนะครับ  ถ้าเลือกแบบที่สอง คือให้ส่งสินค้ามาที่บ้าน Webmaster ก่อน ก็ให้ตอบกลับมาในเมลล์สั้นๆค่ะว่า "ให้ดำเนินการต่อ" ซึ่งก็จะแปลว่าให้ทางทีมงาน ใช้บ้าน Webmaster เป็นที่รับของก่อน  แล้วค่อยส่งต่อไปให้คุณลูกค้าอีกทีหนึ่ง  ตามที่ทางทีมงาน Tuvagroup.com ได้อธิบายเอาไว้ในเวบหน้านี้นะครับ        ส่วนข้างล่างนี้ ก็เป็นตัวอย่างเวบอื่นๆ ที่ใช้ระบบแบบเดียวกันนี้ ( คือไม่ให้ใช้ชื่ออื่นในการรับสินค้า นอกจากชื่อเจ้าของบัตรเครดิตเท่านั้น )

( ภาพบน ) ให้ดูภาพเต็มก่อนครับ แล้วจะขยายความ ดังภาพข้างล่างนี้

( ภาพบน ) จะเห็นได้ว่า ทางเวบผู้ขายจะแยก "ชื่อผู้ซื้อ" ( ตรงที่ ลูกศรสีเขียว ชี้อยู่ในภาพบน ) ออกมาต่างหากจากข้อมูลอื่น

( ภาพบน ) ส่วนที่อยู่สำหรับรับของ ( ตรงที่ ลูกศรสีน้ำเงิน ชี้อยู่ในภาพบน ) และที่อยู่สำหรับส่งบิล ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้่อยู่ในภาพบน ) จะไม่มีการระบุ ชื่อและนามสกุลเลย  ( เพราะชื่อและนามสกุล ได้แยกออกไปเป็นอีกส่วนหนึ่งแล้ว )        พูดง่ายๆก็คือว่า คุณสามารถเปลี่ยน ที่อยู่สำหรับรับของ ( ตรงที่ ลูกศรสีน้ำเงิน ชี้อยู่ในภาพบน ) และที่อยู่สำหรับส่งบิล ( ตรงที่ ลูกศรสีแดง ชี้่อยู่ในภาพบน ) ไปเป็นที่ไหนก็ได้ "แต่" คุณจะไม่สามารถเปลี่ยนชื่อและนามสกุลของผู้รับได้เลย ( คือต้องใช้ชื่อและนามสกุลของเจ้าของบัตรเครดิตเท่านั้น )